ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

แม่เป็นคนทิฐิสูงค่ะ ต้องทำยังไงดี
รายละเอียด
นมัสการค่ะ.... คือ ตอนนี้ แม่มีปัญหากับพี่น้อง ซึ่งแม่ของโยมเป็นพี่คนโตสุด และน้องๆที่มาอยู่กับแม่ เขาก็จะ ไม่ค่อยให้ความเคารพแม่เท่าไหร่ อาจจะเคารพ แต่ไม่ค่อยแคร์ว่าแม่โยมจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ทั้งๆที่แม่เป็นคนหาอาชีพ หาที่ทำมาหากิน หาที่พักให้ พวกน้องของแม่ก็ไม่เคยนึกถึงในส่วนดีของแม่ตรงนี้บ้าง พอแม่หางานมาให้ทำ (ที่บ้านเปิดร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ) คือรับงานจัดเลี้ยงมาให้ น้องๆแม่ก็จะบอกว่า ทำไปกำไรไม่ได้บ้าง เหนื่อยบ้าง ทั้งๆที่แม่โยมก็ต้องทำด้วยและแม่โยมทำก็ไม่ได้คิดเอาส่วนแบ่งจากการหางานเลยก็ให้น้องๆเก็บไว้ลงทุนต่อ แม่พยายามหารายได้เข้ามาให้ แต่พวกน้าคิดว่า ชอบหาเรื่องให้ตัวเอง(ตัวแม่)เหนื่อย โยมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมน้าๆเค้าถึงคิดกันแบบนี้ เพราะสิ่งที่แม่ทำให้ทั้งหมดนั้น ก็เพื่อน้าๆทั้งนั้น แต่พวกน้าๆไม่เคยเข้าใจตรงความหวังดีของแม่เลย ........ พอแม่มีปัญหากับน้องๆ แม่เขาก็จะโทรมาเล่าให้โยมฟัง โยมก็จะคอยบอกแม่นะค๊ะว่า "ช่างเขาเถอะ เขาจะคิดยังไงก็เรื่องของเขา เขาทำยังไงก็ได้อย่างนั้น " คือพูดในแนวให้แม่ปลงๆ ...แต่ผลที่ได้คือ แม่บอกว่า "ไม่ได้หรอก จะให้ปลง จะให้ยอมพวกมันไม่ได้หรอก พวกมันคอยดูถูกแม่อยู่แม่ยอมไม่ได้หรอก " ประมาณนี้นะค๊ะ แล้วแกก็พูดด้วยน้ำเสียงโมโห แล้วแกก็จะบอกว่า ปวดหัว เหนื่อยใจ ...ทั้งๆที่ตัวโยมก็บอกแม่ว่าให้แม่ปล่อยวางบ้าง อย่าเก็บเอามาคิดให้มันมาก แต่แม่ก็ไม่ฟังโยมเลย เหตุการณ์ล่าสุด น้องว่าแม่ว่า " ปัญญาอ่อน " โยมก็บอกแม่นะค๊ะว่า "แม่อย่าไปสนใจกับคำพูดของน้าเลย เขาว่าเรามาถ้าเราไม่รับไม่เก็บเอามาคิด เดี๋ยวมันก็เข้าตัวพวกเค้าเอง แม่จะเอามาใส่ใจทำไม" ..... แต่แม่โยมกลับบอกมาว่า "โอ๊ยยยย จะไม่สนใจได้ไง มันด่าว่าปัญญาอ่อนเลยนะ แม่ยอมไม่ได้หรอก แบบนี้ต้องเอาขวดน้ำขว้างใส่มัน ฯลฯ"(เสียงโมโหๆ) บางครั้งโยมก็ท้อนะค๊ะ เวลาบอกแม่ แล้วแม่ไม่สามารถทำได้ แต่ก็ต้องให้เวลากับแม่ได้ปรับตัว โยมไม่รู้จะบอกแม่ยังไงแล้วค่ะ ให้แม่ปล่อยวางกับเรื่องพวกนี้ เพราะยิ่งบอกเหมือนยิ่งยุให้คิดให้ทำ ยิ่งบอกให้เลิกคิดก็ยิ่งคิด ...โยมเคยอ่านหนังสือธรรมมะ เค้าบอกว่า ถ้าพ่อแม่หมั่นสวดมนต์ทำบุญ รักษาศีล จะทำให้ลูกเป็นคนดีเรียนหนังสือเก่ง เชื่อฟังพ่อแม่ ซึ่งก็ดูได้จาก แม่ของโยม แม่ก็เป็นคนที่อยู่ในศีล ค่ะ ตอนนี้ ลูกๆก็มีหน้าที่การงานที่ดีทำทั้งคู่ แม่มีลูกสองคนค่ะ โยมเป็นคนเล็กทำงานรับราชการ(อายุ 22) ส่วนพี่ชาย(อายุ 24) ก็รับราชการทหารค่ะ ตอนนี้แม่อยู่กับพี่ แต่พี่เค้าก็จะมีอารมณ์ร้าน ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของแม่เท่าไหร่ ...
ความต้องการ
โยมต้องทำยังไงให้แม่เค้าปล่อยวางจากเรื่องพวกนี้ได้ค๊ะ ต้องบอกแม่ยังไง ต้องคุยยังไง ถ้าคุยไม่ได้ มีทางไหนที่โยมพอจะทำให้แม่เค้าใจสงบได้มากกว่านี้บ้างหรือป่าวค๊ะ แม่เคยไปนั่งวิปัสนานะค๊ะ ไปหลายเดือน(ช่วงนั้นเพิ่งจะเลิกกับพ่อใหม่ๆ) แต่กลับมาแม่ก็ยังเหมือนเดิม ....ซึ่งโยมคิดว่า ถ้าแนะนำให้แม่ไปนั่งวิปัสนา ก็คงจะไม่ได้ทำให้แม่ปล่อยวางได้เท่า่ไหร่ โยมเลยคิดว่า โยมต้องทำยังไง ให้แม่มีจจิตใจที่สงบมากกว่านี้ค่ะ .....นมัสการขอบพระคุณค่ะ
ชื่อผู้ถาม
เจ้ากิ๊ฟ
วันที่เขียน
14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 17:33:39
จำนวนคนเข้าดู
2459

คำตอบ

คำตอบที่ 1
บางครั้งแม่อาจไม่ได้เครียดอะไรจริงจังนักก็ได้ เป็นพี่ใหญ่ อยากดูแลน้อง ๆ ไม่ให้น้อง ๆ ลำบาก น่านับถือน้ำใจและความคิดอ่านที่ไม่หยุดนิ่ง จริง ๆ ปัญหาหลักไม่ได้อยู่ที่แม่เราเท่าไหร่นะ แต่อยู่ที่น้อง ๆ ของแม่มากกว่า ถ้าแม่ไม่หาอะไรมาให้เขาทำเลย เรื่องยุ่ง ๆ แบบที่วาคงน้อยลง จริง ๆ พวกต้อง ๆ ของแม่ต้องคิดต้องหาอะไรทำของตนเอง หากแม่ไม่หางานอะไรมาป้อนแล้ว คงไม่มีใครว่าแม่ได้ ก็ให้แม่แกพิจารณาดู จะทำแบบนี้อีกนานแค่ไหน ลูก ๆ ก็โตพอควรแล้ว น่าจะช่วยกันดูแลแม่ได้ไม่ยากนัก ส่วนเรื่องน้อง ๆ ก็น่าจะปล่อยให้เขาดูแลจัดการตัวเอง ไม่มีอะไรดีกว่าการเจริญจิตภาวนานี่แหละ ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ยิ่งมีอะไรมากระทบ ก็ยิ่งต้องได้โอกาสเจริญภาวนาเลย ไม่ต้องหนีไปไหน อยู่กับสิ่งที่เกิดสิ่งที่เป็นในปัจจุบันนี่แหละ ตัวหนูเองก็อย่าเบื่ออย่าหน่ายพูดคุยกับแม่ ให้แกได้ระบายกับเราก็ยังดีกว่าไม่มีที่พูดคุยเลย
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 20:40:10
คำตอบที่ 2
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ น้องๆแม่คงจะเป็นแบบนี้อีกนานค่ะ แต่หนูไม่อยากให้แม่เครียดเรื่องน้าเท่าไหร่ บางครั้งก็อยากให้แกนึกถึงตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาแกก็นึกถึงคนอื่นมากเกินไป จนลืมที่จะหาความสุขให้ตัวเอง หนูเคยแนะนำแม่แล้ว ให้ลองนั่งสมาธิวันละ นาที สองนาที ก็พอ เพื่อแม่จะปล่อยวางได้บ้าง แม่บอกว่า ทำได้ไม่ถึงสองนาที ก็ต้องเลิกทำเพราะไม่ค่อยมีสมาธิ นั่งไม่ค่อยได้ จะปวดขา (ประมาณนี้ค่ะ) ส่วนเรื่องดูแลแม่ อันนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับลูก เพราะมันเป็นสิ่งที่ลูกต้องตอบแทนให้พ่อแม่อยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง ... :) ส่วนตัวหนูเองไม่เคยเบื่อหน่ายที่จะให้แม่ระบายให้ฟังเลยค่ะ เพราะรู้ว่าแกไม่มีใึึีครแล้วนอกจากเรา แต่บางครั้งก็ท้อนิดๆที่ว่า ไม่สามารถช่วยให้แม่ปล่อยวางในเรื่องที่ทำให้ตัวเองทุกข์ได้... ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลแม่เท่าไหร่ เพราะหนูกับแม่อยู่คนละที่กัน จะกลับบ้านแค่ช่วงเสาร์อาิทิตย์ หนูเลยอยากจะหาวิธีที่ช่วยทำให้แม่เค้ารู้สึกปล่อยวางในเรื่องพี่น้องของเค้าได้บ้าง ทางใดทางหนึ่งก็ยังดี
ชื่อผู้ตอบ
เจ้ากิ๊ฟ
วันที่เขียน
17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 00:35:11
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร