ผ่านไป 4 ปี แล้วสามีเพิ่งมาสารภาพ เราควรทำอย่างไรดีคะ
รายละเอียด
ขอคำแนะนำด้วยคะ
แต่งงานมา 14 ปี มีลูก 2คน ก่อนแต่งสามีเคยรับปากว่่าจะมีเราเพียงคนเดียว และทำให้เรามั่นใจมาโดยตลอด เหตุเกิดเมื่อหลังคลอดลูกคลอดที่ 2 เมื่อ 4 ปีกว่า มีนักศึกษาฝึกงาน มาพัวพันเราเห็นอาการของเด็กแล้วจึงเตือนสามีว่าอันตรายขอให้ห่าง ๆไว้ เค้ารับปาก แต่ไม่นานก็เจอข้อความในโทรศัพท์สามีว่าให้ขับรถกลับบ้านดี ๆ นะ จากเด็กฝึกงาน จึงใช้โทรศัพท์ของสามีโทรกลับไป และบอกว่าน้องไม่มีความจำเป็นต้องแสดงความห่วงใยสามีพี่ เด็กตอบกลับมาด้วยอารมณ์ว่าไม่ได้แย่งผัวหรอกน่า เราก็เฮ้ยอย่างนี้ไม่ธรรมดาแล้ว จึงถามสามีเค้าก็บอกว่าไม่มีไร คราวนี้เราก็อารมณ์เสียละถามกลับว่าไม่งั้นเด็กมันไม่ตอบเราแบบนี้หรอก ก็คุยกันตกลงว่าเราขอคุยกับพี่หัวหน้างาน เพื่อความสบายใจพี่เค้าจึงย้ายเด็กให้ไปฝึกอีกที่หนึ่งและให้พี่ ๆ ผู้หญิงช่วยกันเด็กออกไปเมื่อเด็กพยายามเข้าใกล้สามี ขณะนั้นอยู่ระหว่างการขอย้ายสถานที่ทำงานให้มาอยู่ใกล้เรา เพื่ิอจะได้ประหยัดใช้รถคันเดียวกัน ก็พอดีได้ย้าย จึงเชื่อมาโดยตลอดว่าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
แต่มาเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ นอนอยู่ด้วยกัน สามีก็โพล่งขึ้นมาว่าได้มีอะไรกับเด็กคนนั้นไปแล้ว เราก็ช๊อคน้ำตาร่วงพรู แต่ก็ยังอุตส่าห์ถามไปได้ว่าที่ไหนอะไร ยังไง กี่คร้ัง วูบแรกอยากไปให้พ้น แต่ลูก 2 คนหลับอยู่จะทำไง ด้วยภาระหน้าที่เราก็ต้องทนฝืนให้เป็นปกติ แต่ปวดใจจนเกินบรรยาย เฝ้าถามตัวเองว่าจะทำไงดี ตอนนี้เหมือนคนพายเรือในอ่าง เพราะคิดว่าเป็นปัญหาของคน 2 คน ไม่อยากให้คนรอบข้างต้องมารับรู้และเสียความรู้สึกไปด้วย จึงรบกวนขอคำชี้แนะด้วยคะ
1.ถามว่าทำไมต้องมาบอกกันตอนนี้ เพื่ออะไร เค้าตอบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเค้ารู้สึกผิดและเป็นทุกข์มาก และเค้าอยากจะบอกหลายคร้ังแล้วและคิดว่าเราน่าจะรับได้แล้ว ณ เวลานี้ ถ้ายอมรับ ณ วันนั้นเค้ากลัวว่าเราจะแยกทางไป และที่สำคัญเค้ากลัวว่าจะพลาดอีก เพราะประมาณเมษายนนี้จะต้องไปอบรมนาน 3 เดือน มันมีโอกาส (สามารถกลับบ้านได้ทุกสุดสัปดาห์) ซึ่งที่ทำงานใหม่นี้เองก็มีสาว 2 คน ยั่วซะจนเค้าก็แทบทนไม่ไหวเหมือนกัน เค้าอยากคุยกับเราได้อย่างเปิดเผย
ประเด็น คือ ฟังดูเหมือนดีนะ แต่ความรู้สึกเราแย่มาก เหมือนคนเห็นแก่ตัว 1)สารภาพเพื่อจะได้ไม่ต้องแบกไว้คนเดียวอีกต่อไป (แต่คิดถึงผลที่จะตามมาไหมเนี่ยว่าเราหล่ะ) กับ2)เพื่อหยั่งท่าทีว่าเกิดเค้าทนต่อความอยากไม่ไหวมีไรกะคนอื่นอีกเราจะรับได้ไหม เมื่อเห็นว่าเราทุกข์ขนาดนี้เค้าก็รับปากว่าจะไม่มี
โอ้คุณพระช่วย เรายังสามารถเชื่อใจคุณได้อีกหรือนี่ ทั้งที่คุณได้ทำลายมันย่อยยับลงแล้ว เค้าบอกขอโอกาสและให้คิดถึงความดีของเค้าบ้าง
2.ถามว่าถ้าต้องการป้องกันปัญหาในอนาคต ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาสารภาพเลย เหมือนถูกมัดมือชก ถ้ายอมรับได้ ณ วันนี้ คร้ังต่อไปก็มีได้อีกซินะ นั่นคือความหวังหรือเป้าหมายที่แท้จริงของการสารภาพใช่ไหม แล้วเราควรทำอย่างไรดี
3.ถามว่าเค้าไปนอนกับเด็กฝึกงาน ถึง 4 คร้ัง ในโรงแรมม่านรูด ถ้าว่าผลั้งเผลอคร้ังเดียวก็เกินพอแล้ว แต่นี่ยังมีต่อเนื่องมาเลิกเพราะเราเห็นข้อความที่เล่าข้างต้น คำตอบคือ ณ วันน้ันเค้าเป็นคนชั่วแต่วันนี้เค้าศึกษาธรรมะแล้ว และต้องทนทุกข์กับความรู้สึกผิด เค้าจะไม่ทำอีกขอสาบานให้แลกด้วยชีวิต แต่เราไม่รับคำสาบานหรอก และบอกว่าจะยิ่งทุเรศเข้าไปใหญ่ถ้าคุณจะต้องตายเพราะทนต่อตัณหาไม่ไหว ไม่ได้ปลื้มหรอกนะกลับยิ่งเป็นความเห็นแก่ตัวด้วยซ้ำ เพราะเราต้องรับภาระอีก 2 ชีวิต เอาเป็นว่าถ้าคิดจะไปนอนกะใครอีก ก็ให้บอกผู้หญิงด้วยว่าให้เอาลูก 2 คนไปเลี้ยงด้วยละกัน แล้วเราจะออกไปจากชีวิตพวกคุณเอง เรื่องอะไรตัวเองไปเสพสุขแล้วเรามานั่งเลี้ยงลูกอยู่คนเดียว (เฮ้อเราก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน) ในเมื่อคุณบอกว่าเป็นกรรมของเราที่เกิดเรื่องนี้ ส่วนที่เค้าทำผิดไว้เค้าก็ต้องรับกรรมเช่นกัน เราจึงบอกว่าถ้่าเช่นนั้นหากบ้านจะแตกเพราะตัณหาราคะของคุณก็ต้องคิดซะว่าเป็นกรรมของลูกไปซินะ เฮ้อตกลงที่ศึกษาธรรมมะเนี่ยเพื่อจะโทษเวรกรรมงั้่นรึ
ความต้องการ
ขอการวิเคราะห์/แง่มุมในทางธรรม หรือ
ความคิดที่เป็นประโยชน์สิ่งที่ควรทำ และกำลังใจในการฝ่าปัญหานี้ให้ได้ด้วยคะ
ขอบคุณคะ
ชื่อผู้ถาม
หญิง
วันที่เขียน
6 มีนาคม พ.ศ. 2556 02:09:58
จำนวนคนเข้าดู
3411