ข่าวความเป็นไปแห่งชีวิต

เกิดเหตุสลดใจ! ครู คศ.3 ระดับ 8 ใช้อาวุธปืน 11 มม.จ่อขมับปลิดชีพตัวเองภายในบ้านพัก ที่จังหวัดนครพนม สามีเผยเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง จากสาเหตุหลายอย่างทั้งโรคประจำตัว โรคซึมเศร้า ปัญหาหนี้สิน

เกิดเหตุสลดใจ! ครู คศ.3 ระดับ 8 ใช้อาวุธปืน 11 มม.จ่อขมับปลิดชีพตัวเองภายในบ้านพัก ที่จังหวัดนครพนม สามีเผยเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง จากสาเหตุหลายอย่างทั้งโรคประจำตัว โรคซึมเศร้า ปัญหาหนี้สิน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ตั้งอยู่บนถนนเลี่ยงเมือง สายบ้านน้อยหนองเค็ม-ท่าควาย อำเภอเมืองนครพนม ภายในห้องนอนพบร่างนางวาสนา บุดดาศรี อายุ 56 ปี ครู คศ.2 ระดับ 8 โรงเรียนบ้านสุขเกษม นอนเสียชีวิต ขมับขวามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.ใต้เตียงนอนพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ 1 ปลอก ซองใส่อาวุธปืน ในแม็กกาซีนยังมีลูกกกระสุนค้าง 6 นัด 

ตำรวจสอบสวน ร.ต.ท.สำพันธ์ บุดดาศรี อายุ 58 ปี รอง สว.ตม.จังหวัดนครพนม สามีผู้ตาย ให้การว่า ขณะปั่นอาหารเหลวให้ภรรยาในตอนเช้าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ครั้งแรกคิดว่าหลอดไฟแตกจึงเดินไปดูที่ห้องนอน พบศพภรรยาเสียชีวิตจมกองเลือดคาเตียงแล้ว เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกชายวัย 34 ปี และลูกสะใภ้ได้ยินเสียงปืนจึงพากันเปิดประตูเข้าไปดู พบร่างของแม่ เกรงว่าบุตรชายจะหยิบปืนกระบอกดังกล่าวปลิดชีพตามมารดาไปอีกคน จึงรีบคว้าปืนไปเก็บในที่ปลอดภัย  โดยก่อนหน้านี้ภรรยาล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองเปลาะ และโรคปอดอักเสบ จนมีอาการซึมเศร้าพาไปรักษาที่ ร.พ.ธรรมศาสตร์ กรุงเทพฯ แต่อาการยังไม่ทุเลา แพทย์จึงนัดตรวจอีกครั้งเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา พาไปรักษาที่ ร.พ.จิตเวชฯ นครพนม เนื่องจากเห็นภรรยามีอาการซึมเศร้า หมกตัวอยู่ในห้องนอน และยังต่อว่าตนที่พาไปโรงพยาบาลบ้า

อย่างไรก็ตามภรรยาเป็นคนคิดมาก เคยผูกคอตายมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จเพราะมาพบก่อน พยายามพูดปลอบประโลมให้คลายเศร้า และยังขาดการสอนนักเรียนมา 3-4 วัน เกรงทางโรงเรียนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวน จึงทำหนังสือยื่นเรื่องลาป่วยให้ อาจเกิดความเครียดซ้ำ กระทั่งแอบขโมยปืนพกในกระเป๋าสะพายสีดำของตนซ่อนอยู่ใต้เตียงมาฆ่าตัวตายอย่างเศร้าสลด เพราะเคยฝึกให้ภรรยายิงปืนในสมัยเป็นสาวๆ

ด้านบุตรชายของผู้ตาย กล่าวร่ำไห้ระบุว่า มารดาไปกู้เงินนอกระบบจำนวน 3 แสนบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ตนกับบิดาจึงช่วยกันหากู้เงินไปปิดหนี้ดังกล่าว เกรงว่ามารดาจะคิดมากและคิดสั้น โดยบ่นว่านอนไม่หลับมา 2-3 วัน ข้าวปลาไม่ยอมกิน เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา มารดาคว้าสายไฟในห้องนอนมาผูกคอหวังฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง แต่ตนเข้าไปห้ามและช่วยไว้ทัน

ด้านพนักงานสอบสวน เชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหลังจากพบว่ามีซองยาจำนวนมากอยู่ในห้องนอน และโต๊ะห้องโถงหน้าบ้านยังพบอาหารเหลว เช่น กล้วย นม กาแฟ ที่สามีเตรียมไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งเก็บหลักฐานเพื่อใช้ประกอบหาสาเหตุว่าเกิดจากฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ และหากญาติไม่ติดใจจะมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป 

ที่มา : ครอบครัวข่าว ช่อง 3 ออนไลน์ วันที่ 06 ส.ค. 60 เวลา 16:15:28 น.
เขียนโดย : สายด่วนชาวพุทธ
เขียนเมื่อ : 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560
อ่าน : 1814

ข่าวความเป็นไปแห่งชีวิตอื่นๆ

ธรรมะท้ายข่าว

ธรรมะท้ายข่าวที่ 1
สิ่งที่ควรทำ‬ เมื่อดูข่าวคนฆ่าตัวตาย ข่าวคนฆ่าตัวตายนั้น บางครั้งเราอาจจะช่วยอะไรเขาไม่ได้ เพราะเขาได้ตายจากโลกไปแล้ว น่าเสียดายและน่าเห็นใจ คนตายแล้วคือคนที่หมดโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งดีงามต่าง ๆ สำหรับชีวิตแล้ว เราคงไปว่าอะไรคนตายไม่ได้ แต่เรื่องลักษณะแบบนี้ก็สามารถเป็นเครื่องเตือนใจเราได้เช่นกันว่า ชีวิตเราที่เกิดมา ควรให้เป็นอย่างไร ชีวิตไม่ควรประมาทอย่างไร ผิดหวังอะไรและอย่างไรก็ตาม ต้องยืนหยัดสู้ อดทน และลุยไปจนกว่ามันจะหมดลมหายใจตามธรรมชาติของมันเอง ไม่ต้องไปเร่งความตายให้มาเร็ว ๆ ไม่ต้องไปวิ่งหามัน เมื่อถึงเวลา ไม่ว่าเราหรือใคร ๆ ก็ต้องตายจากไปแน่นอน ข่าวคนฆ่าตัวตายที่ปรากฎอยู่บ่อย ๆ นี้ เราดูไว้ ดูให้เข้าใจถึงที่ไปที่มา ทำไมเขาฆ่าตัวตาย แต่เราจะไม่เลียนแบบ ไม่ทำตาม และใช้เรื่องแบบนี้มาตักเตือนตัวเองและระลึกไว้ในใจตัวเองเสมอ ๆ ว่า "เราเกิดมาเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามสำหรับโลก สำหรับสังคม สำหรับเพื่อนมนุษย์และตัวเราเองเท่านั้น ไม่ใช่เกิดมาเพียงเพื่อกิน ๆ เที่ยว ๆ เล่น ๆ สนุก ๆ เฮฮา อวดเท่ อวดทรัพย์สินหรูหราไปวัน ๆ ไม่ใช่เกิดมาเพื่อฆ่าตัวเองทิ้ง ไม่ใช่เกิดมาเพื่อสร้างศัตรูก่อเวร ชีวิตเรา แม้ว่าจะเจอปัญหาอุปสรรคยุ่งยากสาหัสปานใดก็ตาม แม้ว่าจะพบความผิดหวังร้อยแปดพันเก้าเรื่องก็ตาม เราต้องสู้ ต้องลุย ไม่ท้อแท้ ไม่เหลาะแหละ ไม่หนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตายเป็นอันขาด เราต้องตั้งสติให้มั่นคง พร้อมที่จะเผชิญกับความเป็นจริง อยู่กับความเป็นจริง แก้ปัญหาตามความเป็นจริง ไม่ว่าความเป็นจริงนั้น จะถูกใจเราหรือไม่ถูกใจเราก็ตาม เราต้องยอมรับและเคารพมัน และแก้ปัญหาตามเหตุปัจจัยที่เหมาะสม แม้ว่าเราจะขาขาด แขนขาด อวัยวะบกพร่อง แม้ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงเจ็บปวดสาหัสปานใด เราก็จะไม่ฆ่าตัวตาย เราจะอยู่กับมัน รับรู้มัน ดูมันอย่างเข้าใจ อย่างอดทน อย่างสงบ ไม่เคียดแค้นชิงชังร่างกายนี้ ไม่รำคาญความคิด ความเบื่อหน่าย ความหงุดหงิดที่มันเกิดขึ้น เราต้องฝึกปล่อยวางมันให้ได้ มองให้เห็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดเป็นอย่างนั้นมีอย่างนั้นให้ได้ ยามเมื่อเราทำงาน ทำธุรกิจ แม้ว่าจะสูญเงินทองมากมายกี่หมื่นแสนล้าน แม้ว่าจะหมดทรัพย์สินไปเท่าไหร่ก็ตาม เงินทองและทรัพย์สินต่าง ๆ เหล่านี้ แม้จะมากสักปานใด ก็เทียบไม่ได้กับ "ชีวิต" ของมนุษย์เรา ดังนั้น เราต้องรักษาชีวิตเราไว้ให้ดีที่สุด ให้ถูกต้องที่สุด เราจะมาฆ่าตัวตาย เพราะความผิดหวังในทรัพย์สินเงินทอง ลาภ ยศ ตำแหน่ง ของนอกกายนี้ไม่ได้ จะทำร้ายชีวิตเพราะความผิดหวังขัดเคืองใจในสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ แม้ยากจนแสนเข็ญ แม้จะไม่มีเงินทองเลย แม้ไม่มียศศักดิ์ ไม่มีตำแหน่ง ก็ไม่ใช่สิ่งน่าอายหรือขายหน้าจนถึงขนาดต้องฆ่าตัวเองเลย ทรัพย์สินเงินทอง เป็นเพียงของนอกกาย ลาภ ยศ ตำแหน่ง เป็นของชั่วคราว แม้ไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราก็สามารถหาวิธีอยู่ของเราได้ แม้มีน้อย เราก็อยู่ได้ แม้ไม่รวย เราก็อยู่ได้ สิ่งเหล่านี้ ถ้าเราขยัน ไม่ท้อแท้ ทำถูกวิธี ไม่นานก็หาได้ เราได้เกิดมาเป็นคนแล้ว เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ เป็นโอกาสอันล้ำเลิศที่ได้เกิดมาเป็นคน ก่อนจะถึงวันสิ้นลมหายใจตามธรรมชาติ เราควรใช้อัตภาพร่างกายมนุษย์ของเรานี้สร้างสรรรค์สิ่งดีงามดีกว่า คือ ใช้ร่างกายนี้สร้างทาน รักษาศีล และเจริญสติภาวนาให้เต็มกำลังความสามารถที่สุด เราชาวพุทธ ต้องปลุกใจตัวเอง ฝึกตัวเองให้คิดและทำแบบนี้เสมอ ๆ
ชื่อผู้ตอบ
สายด่วนชาวพุทธ
วันที่เขียน
7 ตุลาคม พ.ศ. 2560 08:55:38
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1