ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

สามีมีเมียน้อย
รายละเอียด
ดิฉันแต่งงานอยู่กินกับสามีมา 10 ปีกว่า จู่ๆมาได้แอบไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน โดยโกหกดิฉันว่าไปอมรมที่ต่างจังหวัด (เมียน้อยคนนี้ก็รู้จักดิฉันว่าเป็นเมียอยู่แล้ว) ดิฉันรู้ข่าวสามีใจแทบสลาย ดิฉันโทรหาสามีว่าอยู่ไหนสามีตอบดิฉันว่าอยู่ชลบุรี ดิฉันได้เล่าว่ามีคนเอาการ์ดงานแต่งเธอกับเจ้าสาวชื่อ...แต่สามีกลับปฎิเสธว่าอย่าคิดมากเลย มันเป็นเรื่องไม่จริงมีคนแกล้งเขาแน่ๆ ดิฉันได้เรียกสามีมาเคลียที่บ้านพ่อแม่ดิฉัน สามียังยืนกระต่ายขาเดียวอยู่นั่นแหละ จนพี่สาวทนไม่ไหวจึงโทรไปที่ทำงานของสามี ถามพนักงานว่าเมื่อวานที่บริษัทมีงานหรือ พนักงานตอบใช่ไปงานแต่งของ....กับชื่อของเมียน้อย สามีก้มหน้าตอบไม่จริงมีคนแกล้งเขา เขาโกหกหน้าตาเฉย พี่น้องของดิฉันจึงบอกสามีว่างั้นก็บ้านใครบ้านมัน อ้อลืมบอกไปว่าสามีกับฉันมีลูกด้วยกัน 1 คนเป็นผู้หญิง สามีก็ไม่ได้ทำตามที่พี่สาวดิฉันบอกเลย แถมกลับบ้านที่อยู่กินกับดิฉันเหมือนเดิม แต่ก็ไม่เลิกกับเมียน้อยไปๆมาๆ เป็นเวลามาอีก 8 ปี ซึ่งตอนนี้ดิฉันก็เบื่อๆ เซ็งๆ ทุกวันบางทีก็ทะเลาะกับสามีตลอด ไล่ก็ไล่ทุกครั้งที่เขาโกหกดืฉันแต่สามีก็ไม่ไปอยู่กินกับเมียน้อยถาวรซักที ไล่กี่ครั้งเขาก็เก็บเสื้อผ้าไปบ้านพ่อแม่เขา วันไหนเวรอยู่บ้านเมียน้อยก็นอนบ้านเมียน้อย วันไหนเวรอยู่บ้านดิฉันก็ไปนอนบ้านพ่อแม่เขา พอหลายๆวันเข้าสามีก็ทำเป็นแอบมาตอนดึกๆหลังเที่ยงคืนมาที่บ้านดิฉัน เพื่อมานอนอยู่กินโดยมาง้อมาเอาใจให้หายโกรธบ้าง แต่ดิฉันไม่มีวันหายหรือยกโทษให้กับคน2คนนี้เพราะสามีไม่เคยขอโทษในสิ่งที่เขากระทำผิดต่อดิฉันเลย ก็ไม่เข้าสามีเลยว่าทำไมไม่ไปอยู่กับเมียน้อยเป็นถาวรไปเลย รักมันมากยอมทำตามทุกอย่างที่มันเสนอ ตลอดเวลาที่อยู่กินกับดิฉันไม่เคยเลยสักครั้งที่จะให้เงินใช้ ดิฉันทำมาหากินเองตลอด ของใช้ในบ้านที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เช่นรถกะบะ/รถเก๋ง/รถเครื่อง 2 คัน/ก็ด้วยน้ำพักน้ำแรงของดิฉัน แล้วสามีดิฉันยังทำกับดิฉันแบบนี้อีกมันช่างเจ็บปวดจริงๆ เขาไม่เคยเป็นที่พึ่งทางใจไม่เคยแม้แต่เป็นที่ปรึกษาให้กับครอบครัวเลย ดิฉันก็ไม่รู้ว่าเหตุการ์ณเลวร้ายแบบนี้จะปกติเมื่อไร สงสารตัวเองเหมือนกันทำไมต้องมาเจอสภาวะกดดัน หลอกลวง ไม่ซื่อสัตย์ ส่วนลูกสาวตอนนี้อายุ 19ปีแล้วดิฉันกลุ้มใจเหลือเกินไม่รู้จะพูดหรือปรึกษาใครดี เจอปัญหาตัวพ่อไม่พอมาเจอลูกอีกบางครั้งลูกก็ดีกับดิฉัน บางครั้งก็ก้าวร้าวพูดจาไม่เคารพกับดิฉันเลย มีเรื่องทะเลาะกับลูกแทบทุกวันไม่เชื่อฟังคำที่แม่สั่งสอนเลย เถียงแบบไม่ไว้หน้าผู้เป็นแม่เลยดิฉันไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้ เคยวาดความฝันมานานไม่คิดเลยว่าชีวิตในครอบครัวดิฉันจะมีทุกข์ใจและถูกเอารัดเอาเปรียบจากสามีและลูกตลอดมา บางครั้งทำให้ดิฉันคิดว่าไม่เคยได้รับความจริงใจจากพวกเขาเลย
ความต้องการ
ัอยากให้ลูกเชื่อฟังดิฉันบ้างและอยากให้สามีตัดสินใจเลือกทางเดินสักทาง ไม่อยากให้สภาพครอบครัวเป็นแบบนี้
ชื่อผู้ถาม
อุมา
วันที่เขียน
27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 02:32:18
จำนวนคนเข้าดู
2622

คำตอบ

คำตอบที่ 1
เรื่องลูกนั้น เขาโตแล้ว ให้ค่อย ๆ พูดจา อย่าเสียงดัง อย่าวางอำนาจใส่เขา อย่าไปสั่ง ให้พูดในเชิ.ปรึกษาหารือ เพราะเขาโตแล้ว ให้ชื่นชมและกอดเขาบ่อย ๆ ชมบ่อย ๆ ลูกกลับมาเหนือ่ยๆ ก็อย่าเพิ่งไปซักไปจุกจิกจู้จี้เขา คนในวัยนี้ กำลังหัวเลี้ยวหัวต่อ เราต้องละเอียดและนุ่มนวลให้มาก ส่วนเรื่องสามี น่าจะใช้กระบวนการทางสังคม คือคุณและญาติคุณควรยกไปคุยกับทางญาติสามีคุณได้ว่า จะเอาอย่างไร ตกลงกันให้ได้ แล้วทำตามนั้น อย่าเครียด อย่ากังวลเกินไป ให้ทำใจให้เย็นลงและเจริญจิตภาวนาบ้างจะช่วยได้ ถ้าจะให้ดี คุณควรไปวัดนี้ในวันเสาร์อาทิตย์ ไปเจริญภาวนาที่นี่ จะช่วยให้จิตใจได้ผ่อนคลายและสงบขึ้นได้มาก ถ้าอ้างว่าไม่มีเวลา คุณจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักที http://bhaddanta01.blogspot.com/
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 22:36:41
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร