ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ปัญหาเรื่องเรียนกับครอบครัว
รายละเอียด
ปัญหาของนุมิยุว่า นุเปลคนเรียนมั่ยเก่งเกรดมั่ยดีเเถมยังติด 0 ร อีก ทัมหั้ยมั่ยค่อยมีเพื่อนเลยค่ะ นุอยากมีเพื่อนเยอะๆ เเต่นุก้อเคยลองปัยพุดคุยกับเพื่อนนัยห้องน่ะค่ะ เเต่ก้อเหมือนว่าพวกเค้ามั่ยอยากคุย ตอนนินุมิเพื่อนร่วมห้องทิสนิทกันก้อมั่ยกี่คนเเต่ก้อดูเหมือนว่าเค้าจะห่างๆออกปัย นุควรทัมงัยดีค่ะ ส่วนครอบครัวนุ นุอาศัยยุกับน้าค่ะ พ่อกับเเม่นุเเยกทางกันตั้งเเต่นุยังเดกๆเเล้วนุก้อด้ายมายุกับน้ากับยายส่วนเเม่นุก้อปัยเเต่งงานใหม่ ชิวิตของนุยุกับยายมาก้อนานมากก้อมิยายนิล่ะค่ะทิช่วยทัมหั้ยนุมิกำลังจัยขึ้นมาก เเต่เเม่กับน้านุรุค่ะว่าเค้าหวังดีเเต่เค้ามั่ยเคยเชื่อจัยนุเลย มิคลเอาเรื่องรัยมาเล่าหั้ยเค้าฟังเค้าก้อเชื่อตลอด จนมาวันนึงนุยุม.ปลาย ยุม.4 นุสอบเข้ารร.เเห่งนึงด้ายอันดับต้นๆ เเต่ก้อมิเเต่คลบอกว่าช่ายนุทัมเองรึเปล่า คือวันนั้น นุปัยสอบกับพิสาวฝาเเฝดของนุน่ะค่ะเค้าเรียนเก่งมาก เเต่เค้าดันสอบม่ะติด ซึ่งต่างกับนุมาก นุเรียนมั่ยเก่ง เเล้วนุก้อเดาข้อสอบเเต่นุดันสอบติด บางคนก้อพุดกับนุว่าช่ายรึป่าวมั่ยชั่ยเค้าตรวจผิดหรอ ซึ่งความรู้สึกนุตอนนั้นมันทัมหั้ยนุรุสึกว่านุมันเเย่ขนาดนั้นเลยหรอ จากนั้นมาความรุสึกนุมันก้อหดหู่ลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นอยากจะฆ่าตัวตายจนมาถึงวันเเม่ทิผ่านมานุรุเรยว่าเเม่รักนุมาก เค้าตั้งความหวังกับนุเอาวั้ยมาก ซึ่งนุมั่ยเคยตั้งจัยเรียนเรยเพราะคิดว่าถึงจะเรียนดีเเค่ไหนเเม่ก้อมั่ยเคยเหนค่าของมันยุเเล้ว เเต่พอมาถึงวันนั้น วันที่12 สิงหาคม นุก้อด้ายรุอารัยหลายๆอย่าง รุว่าเเม่ตั้งความหวังกับนุเเต่มันก้อน่าเศร้าน่ะค่ะทินุมั่ยเคยรุอารัยเลย คิดเเค่ว่าเเม่มั่ยรัก มั่ยสั่ยใจ ตอนนิปัญหาที่เกิดขึ้นกับนุก้อคือ นุกับเเม่มักจะทะเราะเรื่องการเรียนของนุ เเม่อยากหั้ยนุเรียนพยาบาล เเต่นุมั่ยอยากเรียน นุกลัวเลือดกลัวเข็ม กลัวผี นุอยากเรียนนิเทศมาก เเต่เเม่มั่ยหั้ยเรียนเเม่บอกว่ามันมั่ยมั่นคง เเต่นุก้อยังยืนยันว่านุจะเรียนนิเทศน่ะค่ะเพราะมันเปนคณะที่นุไฝ่ฝัน นุจะต้องทัมยังงัยค่ะเเม่ถึงจะหั้ยนุเรียน นุสับสน บางทินุก้อคิดว่านุอาจจะเรียนมั่ยจบม.6ก้อด้าย รึมั่ยก้อสอบเข้ามหาลัยมั่ยติด นุกลัวมากเรยค่ะ กลัวว่าถ้านุสอบเข้ามหาลัยมั่ยด้ายนุจะโดนเเม่ว่า กลัวเเม่เสียจัย กลัวว่าเเม่จะต้องร้องให้เพราะนุอิก นุรักท่านมากเเต่นุก้อมั่ยรุว่าจะทัมยังงัยเพราะนุเปนคลทิเรียนมั่ยเก่ง อิกอย่างนุเปนคลทิเเก้ไขปัญหาอารัยมั่ยค่อยด้าย เพื่อนก้อมิมั่ยเยอะ อิกอย่างตอนนิเเม่ก้อมั่ยสบายเปลโรคเครียด คงจะคิดกับนุมาก นุสงสารเเม่มากค่ะ เเต่นุก้อมั่ยรุว่าจะทัมยังงัยหั้ยเเม่ภูมิจัยเพราะนุมั่ยเคยทัมรัยหั้ยเเม่ภูมิจัยเลย
ความต้องการ
-อยากหั้ยเเม่เข้าจัยนัยสิ่งที่เราทำ -เเม่มั่ยเคยเชื่อจัยเลย เปนคลทิหูเบามาก -กลัวว่าจะสอบเข้ามหาลัยมั่ยด้าย -กลัวว่าจะมั่ยมิเพื่อน -กลัวว่าเเม่จะต้องเปลรัยไปเพราะเรา
ชื่อผู้ถาม
นู๋น้าม
วันที่เขียน
14 สิงหาคม พ.ศ. 2556 08:52:49
จำนวนคนเข้าดู
1759

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ถ้าหนูเป็นคนไทย อย่าเขียนอย่าพิมพ์หนังสืออย่างนี้อีก คนอ่านเหนื่อยมาก เราเป็นคนไทย ต้องหัดเขียนให้ชัด เขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง ถ้าหนูรั้นไม่เปลี่ยนตัวเอง การมาปรึกษาหรือขอคำปรึกษาใครก็ป่วยการไม่มีประโยชน์ เราต้องมุ่งมั่นในการเรียน ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่าน ตั้งใจทำแบบฝึกหัด ทำบ่อย ๆ หลาย ๆ รอบ อย่าโลเลลังเล อย่าเฟ้อฝัน ทำอะไรให้อยู่กับความจริง คือมีสติตลอดเวลา เมื่อเราทำสิ่งที่ดีทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องไปกังวลว่า ใครหรือแม่จะเชื่อใจหรือไม่เชื่อใจ อาจเป็นเพราะอดีตที่ผ่านมาหนูทำอะไรไม่ค่อยตรงไปตรงมา เขาก็เลยติดภาพเก่าแบบนั้นอยู่ก็เลยไม่ค่อยเชื่อใจ เรื่องเพื่อน อย่าไปกังวลอะไร ทำตัวเราให้น่ารัก ไม่หยิ่ง ไม่ขี้แย ไม่โวยวาย มีน้ำใจ จริงใจ ไม่นินทาเพื่อน ไม่ยกตนข่มคนอื่น ไม่ชิงดีชิงเด่น เราจะมีเพื่อนแน่นอน ส่วนใครจะไม่คบกับเรา ก็อย่าไปว่าเขา ช่างเขาเถอะ ไม่ต้องไปกังวลเรื่องแบบนี้ ให้หนูสนใจเรื่องทำอย่างไรจะเรียนได้ดีขึ้นโน่นมากกว่า การเรียนอะไร ควรเลือกสิ่งที่เราชอบและจะเป็นอนาคตของเรา เมื่อเราเลือกในสิ่งที่เราชอบแม้ว่าจะมันไม่มีรายได้มากมาย เราก็คงยอมรับและสุขใจกับมัน บอกแม่และให้ความมั่นใจแม่ว่า เราเลือกสายนี้เราสามารถเลี้ยงตัวเองและดูแลแม่ในวันหน้าได้แน่นอน แต่คุณควรหาความรู้ไว้ด้วยว่า อาชีพของคนที่จบสายนิเทศ มันเป็นอย่างไร มีอะไรที่เป็นจุดยาก (ขม) มีอะไรที่เป็นจุดง่าย (หวาน) ของวิชาชีพสายนี้ แล้วเตรียมตัวรับมือรับสถานการณ์ให้พร้อม อย่าไปกังวล และไม่จำเป็นต้องตามใจแม่เสมอไป แม่จะทุกข์ใจในวันข้างหน้าหากผลักให้หนูไปเรียนในสิ่งที่หนูไม่ชอบและไม่ถนัด ดังนั้น จงมุ่งมั่นทำและเรียนในสิ่งที่ตนเองชอบและถนัด จะประสบความสำเร็จแน่นอน
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 22:05:06
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร