ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ไม่เข้าใจความคิดของคนที่อยู่ด้วยกัน
รายละเอียด
เช้าวันนี้เราคุยกับแฟนที่เป็น ผู้บริหารโรงเรียน ส่วนตัวเราก็เป็นครู เมื่อประมาร 3 เดือนก่อน พ่อเราเสียชีวิต ช่วงนั้นแม่ก็จะลอยอังคาร เราก็บอกเขา เขาก็พูดประมาณว่าไม่เห้นด้วยจะลอยไปทำไมเอาฝังดินปลูกต้นไม้ดีกว่า เอาไปลอยอังคารก็เป็นมลพิษเราก็เลยพูดว่าก็ทำไปเถอะแม่จะได้สบายใจ ความเชื่อของใครก็ของมันเขามีความเชื่ออย่างนี้ ครอบครัวมีประเพรีทำอย่างนี้ก็ทำไป เขาก็บ่นอยู่พักนึ่ง พอวันนี้เขาก็ถามเราอีกว่าบุญร้อยวันจะทำไปทำไม เราก็บอกว่าก็ทำบุญให้พ่อ ครบร้อยวันแล้วแม่อยากทำด้วย แล้วเขาก็ถามอีกว่าทำเพื่ออะไร "ก็ทำบุญ ก็แค่นั้นจะเป็นไร" เขาก็ว่าเราน้ำเต็มแก้วไม่เปิดกว้าง เราก็งง พ่อตายก็ทำบุญ ไม่ได้อยากรู้เหตุผลอะไรมากมาย ก็ทำบุญร้อยวันให้พ่อ ตามที่คนอื่นเขาทำกัน ยอมรับว่าไม่รู้เหตุผล แต่ในความคิดมันก็ดีที่ได้ทำทำบุญพร้อมน่าพร้อมตาครอบครัว แม่ก็มีความสุขมันก็น่าจะพอ จะเอาเหตุผลอะไรกับการทำบุญ เรก็เลยไม่เข้าใจว่าเขาคิดว่ามันมากไปเหลอกับการทำพิธีกรรมต่างๆ ให้กับพ่อ...ช่วยตอบให้ที่ว่าแฟนของฉันเขาคิดยังงัย เขาเคยบวชเรียนแล้ว อบรมธรรมมะก้บ่อย ชอบฟังธรรมมะ อ่านหนังสือธรรมมะ แต่เขาไม่ชอบเข้าวัดทำบุญเขาว่ามันไม่จำเป็น หรือว่าการทำบุญแบบ ซื้อผ้าห่อศพ ในช่วงล้างป่าช้าเขาก็จะมองว่า ไรสาระ... จนบางที่เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาคิดอย่างไร ช่วยให้คำอธิบายที่ ขอบคุณคะ
ความต้องการ
อธิบายความคิดของแฟนให้เราเข้าใจความคิดเขาที่
ชื่อผู้ถาม
กิติญา
วันที่เขียน
18 กันยายน พ.ศ. 2556 17:30:14
จำนวนคนเข้าดู
1447

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1. การทำบุญอุทิศให้ผู้ตายที่เป็นญาติเรานั้น ถือว่าได้แสดงกตัญญูวิธีหนึ่ง ส่วนผู้ตายจะได้รับหรือไม่ได้รับนั้น มีหลายเหตุปัจจัย แต่ตัวคนทำบุญนั้น ได้บุญแน่นอนอยู่แล้ว 2. จริงละ การลอยอังคาร การทำบุญร้อยวัน ซื้อผ้าห่อศพ ฯลฯ เป็นประเพณีที่บางคนบางที่เชื่อถือ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เขาและคุณก็ควรไปทำ เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร อย่างน้อยก็ได้พร้อมหน้าญาติ ๆ ทำให้แม่สบายใจอย่างที่คุณว่า ที่สำคัญคือพ่อเรา เราก็อยากทำให้เต็มที่ตามประเพณีที่ชาวบ้านเขาเชื่อ คุณไม่ผิดหรอก คุณคิดและทำดีแล้ว หรือว่า เขากลัวว่าจะหมดเงินทองมากเกินไป จริง ๆ ทำบุญนั้น ใช้เงินไม่เยอะหรอก ที่ใช้เงินเยอะจะเป็นการวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่งหรือฉลองตำแหน่งมากกว่า จริง ๆ สิ่งที่เขาพูดนั้นก็ไม่ผิดอะไรหรอก แต่เขาควรพูดในช่วงเวลาอื่นมากกว่า ไม่ใช่ มาพูดในเวลาที่จะต้องไปทำพิธีแบบนี้กับบุคคลที่สำคัญคือพ่อของภรรยาตัวเอง มันเลยทำให้คุณรู้สึกเคืองและไม่เข้าใจตัวเขา รู้สึกว่า เขาไม่ถนอมน้ำใจเรา แต่อย่างไรเสีย คุณก็ไม่ต้องไปติดใจอะไร ให้อภัยเขาเถอะ อย่าเอาเรื่องแค่นี้ไปเป็นประเด็น จะทำให้ลามไปเรื่องอื่น ๆ ต่อไปได้ เช่น กรณีหากมีญาติฝ่ายสามีเสียชีวิต 3. เขาอาจคิดแบบนักปฏิบัติที่เน้นในเชิงปรมัตถ์ คือไม่ค่อยสนใจเรื่องสมมุติบัญญัติสักเท่าไหร่ บางครั้งก็อาจฟังดูขวาง ๆ ชาวบ้าน ถ้าชีวิตเขากับคุณในเรื่องอื่น ๆ ยังคงเป็นปกติ ก็ไม่ควรไปวิตกกังวลอะไร เขาคิดอย่างไรก็ช่างเขา ปล่อยเขาไป ส่วนตัวเราก็หมั่นค้นคว้าศึกษาและปฏิบัติธรรมมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ นั่นจะดีมากเลย
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
21 กันยายน พ.ศ. 2556 22:16:35
คำตอบที่ 2
ขอบพระคุณคะ
ชื่อผู้ตอบ
กิติญา
วันที่เขียน
22 กันยายน พ.ศ. 2556 20:35:58
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร