ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ภรรยาหนีไปกับชาวต่างชาติ
รายละเอียด
โยมชื่อเล็กครับปัจจุบันโยมอายุ 51ปี ภรรยา 50ปี มีบุตร 2คน คนโตอายุ 23ปี คนรอง19ปี โยมแต่งงานกันมา 27ปี เดิมทำงานอยู่เป็นผู้จัดการบริษัทเอกชน ชีวิตก็ปกติสุขดี มาเมื่อ 8ปีตั้งแต่ออกจากงานมาทำขนมปั้นสิบขายกับภรรยา จนโยมมารู้ว่าภรรยาไปมีหนี้นอกระบบหลายแสนบาท โยมถามว่าไปใช้อะไรมากมาย เขาก็บอกไปซื้อหวย โยมว่าเขาไม่ได้ซื้อหวยอย่างเดียวเขาก็ไม่ยอมบอกโยม จนพวกเจ้าหนี้มาเอาเรื่อง ทุกครั้งเขาจะหนีกับบ้านต่างจังหวัดตลอด ปล่อยให้โยมกับลูกรับหน้าทุกครั้ง ซื่งเป้็นอย่างนี้มาตลอด 8 ปี โยมต้องขายบ้าน รถเพื่อปลดหนี้นอกระบบ เหลือเงินมาเปิดร้านเน็ตจนถึงปัจจุบันนี้ โยมทำมาได้ 4ปีแล้วปัญหาก็คือภรรยาไปแอบกู้เงินอีกจนผมรู้ระยะหลังเราทะเลาะัักันบ่อย จากหนี้นอกระบบซึ่งโยมบอกว่าจะไม่จ่ายให้แล้ว แล้วเมื่อประมาณปลายปีที่แล้วเขาหนีไปอีก ทุกครังผมโยมง้อให้กลับทุกครั้งเพราะอยากให้ครอบครัวอยู่กันครบ พ่อ แม่ ลูก ระยะหลังนี้เขาเพิ่งเล่นเฟสบุคตั้งแต่ต้นปีมา แต่หนี้สินเขาก็ไม่จัดการโยมก็ถามบ่อยว่าเมื่อไหร่จะเครียร์เพราะพวกนี้มากวนเรื่อย เราทำร้านเน็ตดูไม่ดีจนเมือต้นเดือนนี้กันยายนนี้เขาหนีไปอีก โยมโทรไปหาเขาบอกไม่กลับมาอีกแล้ว โยมเลยลองเ้ข้าเฟสเขาโยมมารู้ว่าเขาติดต่อกับฝรั่งต่างชาติอยู่ เกือบ 20คนจะไปอยู่กับเขา โยมกับลูกเครียดมาก โยมได้แต่สวดมนต์แต่ก็ไม่สงบเคยคิดจะทำอะไรแย่ แย่ลูกปลอบโยมตลอดพี่สาวก็มาปลอบ โยมเครียด จิตรไม่สงบเลย ท่านครับโยมจะทำอย่างไร
ความต้องการ
โยมอยากได้คำปรึกษาจะแก้ไขยังควรจะทำอย่างไรต่อไป
ชื่อผู้ถาม
พิชัย
วันที่เขียน
26 กันยายน พ.ศ. 2556 10:40:20
จำนวนคนเข้าดู
1664

คำตอบ

คำตอบที่ 1
เราก็อายุ 50 กว่าปีแล้ว เคยง้อเขาหลายรอบแล้ว เขากลับมา เขาก็แอบไปก่อหนี้ให้เราต้องวิ่งตามใช้ให้อีก จะเอาอย่างไรดี สถานการณ์ขณะนี้นั้น ต้องเลือกแล้ว 1. ให้เขาไปเถอะ อายุมากขนาดนั้น ถ้าเขาจะอยู่จะสู้กับเราและลูก ๆ เขาคงไม่หนีไปไหน แต่อันนี้ เขาเลือกแบบนั้นแล้ว ก็คงต้องไปให้เขาไป อย่าไปรั้ง อย่าไปห้าม ชีวิตเขา เขาเลือกเอง 2. หนี้เก่า ๆ ที่เขาสร้างไว้ เขาคงไม่ยอมมาสู้หน้าเจ้าหนี้ และคงยังไม่มีใช้ คงเป็นภาระของคุณและลูก ๆ แล้วจะต้องประนีประนอมและใช้หนี้แทน แต่ต้องทำเป็นเอกสารให้ชัดเจนหน่อย ว่า หนี้เท่าไหร่ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ หนี้ใครบ้าง แล้วก็ทยอยใช้ไปทีละเจ้า ๆ จนหมด อย่าหนี อย่าท้าทายเจ้าหนี้ 3. เมื่อใช้หนี้หมดแล้ว ก็บอกภรรยาคุณว่า หนี้หมดแล้ว ส่วนเขาจะกลับมาก็เรื่องของเขา ถ้าเขาไม่กลับมาก็ทำใจ แต่ถ้าเขากลับมา คุณและลูก ๆ จะมีมาตรการอะไรที่ไม่ให้เขาไปก่อหนี้แล้วคุณก็ต้องมาตามใช้หนี้แทนอีก ชีวิตจริงมักเป็นอย่างนี้ จะหาอะไรที่ครบถ้วนบริบูรณ์นั้น ยากนัก บอกลูก ๆ ว่า แม้แม่ไม่อยู่ พวกเราก็จะรักและอยู่กันได้ ไม่ต้องไปโกรธเกลียดแม่ ไม่ต้องไปแค้นเคืองแม่ แม่เขามีวิถีแบบนั้น เขามีวิธีคิดวิธีทำแบบนั้น จึงทำให้เขาติดหล่มเป็นหนี้สินแบบนั้น เราจะเลือกสิ่งดี ๆ ที่แม่มี ส่วนอะไรที่เป็นความผิดพลาดของแม่ เราไม่ต้องไปเอามาเป็นแบบอย่าง แต่ถ้าสามารถติดต่อเขาได้ เพื่อไม่ให้มีภาระทางกฏหมาย คุณควรไปจดทะเบียนหย่าให้เขาเสีย (ถ้าจดทะเบียนสมรสกัน) เพื่อให้เขาไปได้อย่างสบายไม่ติดขัด จะไปจดทะเบียนกับฝรั่งที่ไหนก็ง่าย และเมื่อคุณกับเขาไม่มีพันธะทางกฎหมายต่อกันแล้ว หากเขาไปก่อหนี้อะไรอีก ก็จะไม่เกี่ยวกับคุณและลูกอีกแล้ว คุณอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ผ่านโลกมามากแล้ว อะไรอร่อย ๆ ก็เคยกินมาแล้ว อะไรที่ทุกข์ยากก็สัมผัสมาแล้วไม่ใช่น้อย เรื่องแค่นี้ปลงเถอะ วางเถอะ อย่าเอามาคิดให้เสียเวลา อย่าโทษตัวเองว่า ไม่ดี ไม่มีความสามารถหาเงินมาป้อนเมียได้ ชีวิตเราคืออะไร ชีวิตคนอื่นคืออะไร แต่ละชีวิตไม่ใช่ชีวิตเดียวกันนะ ชีวิตใครชีวิตมัน กรรมใครกรรมมัน ใครทำอย่างไรก็ต้องได้อย่างนั้น ดังนั้น ชีวิตเราก็คงอยู่ในโลกนี้อีกไม่เกิน 50 ปี ทำไมจะต้องให้ชีวิตเครียด เศร้าหมองด้วย ตอนเกิดมาก็ไม่มีอะไรติดตัวเลย เวลาตายก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง นอกจากบุญบาปที่เราทำ ทำใจให้ร่าเริง แจ่มใจ คุยกับเจ้าหนี้อย่างจริงใจและขอร้องเขา ทยอยจ่าย ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เราทำขึ้นเลย หนี้พวกนี้ เราไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เจ้าหนี้เขาน่าจะพอใจและเห็นใจเราเช่นกัน ต้องหันหน้าเข้าหาธรรมให้มาก ไปวัดบ่อย ๆ หน่อยแล้ว อย่าแค่ไปวัดแล้วก็กลับ ให้ไปสวดมนต์สัก 30 นาที ไปเดินดูที่เขาบรรจุอัฐิคนต่าง ๆ ในกำแพงวัด ไปเจริญจิตภาวนาสัก 2-3 ชั่วโมงต่อครั้ง ทำใจให้สงบนิ่งแล้วก็กลับมา ก่อนนอนทุกวัน ให้สวดมนต์ ได้บทนะโม อิติปิโส แค่นี้ก็ดีมากแล้ว สวดมนต์เสร็จให้เจริญภาวนา เจริญภาวนาเสร็จให้แผ่เมตตาให้ทุกชีวิต ทั้งคนอยู่ใกล้ อยู่ไกล เป็นญาติหรือไม่ใช่ ไม่ต้องไปถือเป็นประมาณ แผ่ให้ทั้งหมด ไม่ต้องไปเจาะจงที่ใครคนใดคนหนึ่ง แผ่เมตตา หมายถึง ใจของเราสงบ เย็น และต้องการให้ทุกชีวิตมีความสุข ไม่มีทุกข์ แผ่เมตตา ไม่ได้หมายถึง พูดว่า "สัพเพ สัตตาฯลฯ" ให้จบ ๆ ไปแค่นั้น ทำแบบนี้ทุกวัน คุณจะเข้มแข็ง จะยอมรับความเป็นจริงของชีวิตได้ ไม่วันนี้ ก็วันหน้า เรากับเขาไม่ว่าผัวเมียลูกหลาน ก็ต้องจากกันไปทั้งนั้น ไม่มีใครอยู่กันเป็นนิรันดร์หรอก นี่เป็นสัจธรรม ดังนั้น เรามีลมหายใจอยู่ จงใช้ร่างกายนี้สร้างประโยชน์ให้มากที่สุด สร้างประโยชน์ให้ตนเอง คือเรียนธรรมปฏิบัติธรรม ให้ใจสงบและเข้าใจความจริงของชีวิตความจริงของโลก สร้างประโยชน์คนอื่นคือ ใครมาติดต่อมาพูดคุยกับคุณ เขาจะได้รับความสุขความสบายใจกลับไป คนเราทำดี ทำเลว ก็อาศัย 3 ช่องทางนี้คือ ด้านร่างกาย ด้านคำพูด และด้านจิตใจ การที่ปล่อยให้ใจเศร้าหมอง ยึดติดมาก เครียด ก็แสดงว่า เราทำไม่ดีทางใจนะ เรากำลังทำอกุศลทางใจ อย่าท้อ อย่าสิ้นหวัง จงเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไป อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าทำร้ายใคร เราเป็นผู้ชาย ต้องเข้มแข็งกว่าผู้หญิงเป็น 1000 เท่า ต้องเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นให้ได้ อย่าอ่อนแอให้ลูกเห็น สาธุ ขอให้ผ่านพ้นภาวะนี้ไปได้โดยเร็ว และมีความสุข ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น ๆ ต่อไป
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
26 กันยายน พ.ศ. 2556 11:29:50
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร