ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

ร้องไห้ทุกวัน ทนคำพูดของคนรักไม่ได้ค่ะ
รายละเอียด
เรื่องราวของดิฉํนคือ ดิฉันเป็นนักศึกษาแห่งหนึ่งในภาคอิสาน ดิฉันเรียนในคณะที่จบแล้วมีงานรองรับทันทีที่จบ ขณะนี้ดิฉีันกำลังศึกษาในชั้นปีที่3 ดิฉันมีแฟนที่เป็นนักศึกษาด้วยกัน แต่เรียนคนละคณะอาศัยอยู่หอพักด้วยกัน ซึ่งทางบ้านของทั้งสองฝ่ายไม่รู้ เราตกลงกันว่า เมื่อเรียนจบจะบอกผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่่าย แต่ก่อนดิฉันเป็นอารมณ์ดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีเพื่อนเยอะ ชอบเที่ยว (แต่ไม่ใช่เที่ยวกลางคืนนะคะ)ดิฉันกับแฟนอยู่ด้วยกันมาครบ 1 ปีเศษๆ ก่อนหน้านั้นช่วงเทอมสองที่ผ่านมาในปีที่เราทั้งสองคนอยู่ปี 2 เราได้เลิกรากันไปได้ประมาณ 1 เดือนค่ะสาเหตุเพราะแฟนดิฉันเขาขอเลิก เพื่อจะกลับไปหาคนรักเก่าเขา เขาอ้างว่า แม่เขาต้องการให้เขากลับไปหาแฟนเก่า ซึ่งเป็นช่วงที่ดิฉํนกำลังจะเปิดเทอม 2 พอดี ช่วงนั้นถึงแม้ว่าเราจะเลิกกัน แต่ข้าวของเครื่องใช้ดิฉันยังอยุ่กับแฟน ดิฉันถามเขาว่า เขาจะกลับมาจากฝึก รด ตอนไหน (ช่วงตุลาคม) เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะขนไปส่งดิฉันที่หอเอง ไม่ต้องมาขนเอง ซึ่งตอนนั้นดิฉันยังทำใจไม่ได้ที่จะต้องเลิกรากัน แต่ในช่วงที่เขาคบกับแฟนเก่าเขา เขาพยายามติดต่อดิฉํนเรื่อยๆคะ ทั้งโทรศัพท์มาหา ทั้งข้องความทาง Facebook เราก็คุยกันเรื่อยมาขณะที่เขายังอยู่กับแฟนเก่าเขา วันหนึ่งเขามารับดิฉันไปอยู่กับเขาที่หอใหม่ที่เขาพึ่งจะย้ายไป ดิฉันก้ไป (ทั้งๆที่ทั้งเขาและเเฟนเก่าเขามีสถานะหมั้นกันโดยที่ทางครอบครัวของทั้งสองฝ่ายรับรู้ ซึ่งมีค่าสินสอดหมั้นหมายกัน 70,000บาทและทองคำหนัก 1บาท)แต่เขาก็ยังไม่ตัดขาดจากดิฉัน เขาให้ดิฉันไปอยู่ที่หอใหม่กับเขาแต่เขาไม่ให้แฟนเก่าเขามาอยู่ด้วย แต่ไม่เคยพาดิฉันไปไหนมาไหนด้วย เพราะเขาบอกว่าจะพาไปไหนได้ด้วยยังไงเพราะเขามีคู่หมั้นแล้ว ฝ่ายเขาจะเสียค่าเงินหมั้นฟรีๆ ดิฉันก็ทนอยู่กับเขาทั้งๆที่รู้ว่าผิด จนวันหนึ่งในช่วงปลายพฤศจิกายน เเฟนเก่าเขาจับได้ว่าเราอยู่ด้วยกัน ซึ่งแฟนเก่าเขาให้แฟนดิฉันตัดสินใจว่าจะเลือกใคร แต่แฟนดิฉันเขาไม่เลือกใครสักคนบอกว่าจะอยู่กับคนที่เลือกที่จะอยู่กับเขาและรักเขา(ซึ่งดิฉันว่าแฟนดิฉันเห้ฯแก่ตัวมากที่สุด)แฟนเก่าเขาเลยบอกว่า ถ้ายังนั้นเขาจะขอเลิกเอง เขาสาปแช่งดิฉันด้วยว่า เขาดีที่หลุดพ้นจากผู้ชายห่วยๆและแย่ที่สุด ขอให้ดิฉันมีแต่ความทุกข์ไม่มีความสุข จากนั้นเมื่อแฟนเก่าเขาไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เลิกด่าดิฉันกับแฟน เขาด่าพวกเราบนสถานะ Facebook ด่าว่าดิฉันต่างๆนา ทั้งด่าผู้ชายด้วย เหมือนจะสาปแช่งตลอด ซึ่งดิฉันและแฟนไม่เคยตอบโต้เขา มีวันนึงช่วงเดือนธันวา เราไปเดินงานสถาปนามหาลัยด้วยกัน แล้วมีเพื่อนของแฟนเก่าเขามาเจอและได้พูดคุยกับแฟนดิฉัน ซึ่งดิฉันก็ไม่สนใจ แล้วเราก็กลับมาห้อง มาเปิด Facebook แล้วเจอแฟนเก่าเขาด่าว่าดิฉันไปจ้องหน้าหาเรื่องเพื่อนเขาซึ่งดิฉันงงมาก ทั้งๆที่ดิฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนเขาหน้าตาเป็นอย่างไร แฟนดิฉันเลยโพส ข้อความด่าบนสถานะของตัวเองกลับไปแฟนเก่าเขาที่ยังไม่เลิกยุ่งกับพวกเรา ขณะที่แฟนดิฉันเขาก็แอบคุยกับน้องคณะเขา แอบคุยกับผู้หญิงอีกหลายๆคน เพราะเขาเป็นพวกเจ้าชู้ ซึ่งตลอดเวลาที่คบกันมาดิฉันจะร้องไห้ทุกคืน ถ้าไม่ร้องด้วยทะเลาะกัน ก็จะเป้นความคิดของดิฉันเอง จนมาถึงทุกวันนี้ แฟนดิฉันเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองจนคนรอบข้างรู้ เขาเปลี่ยนจากที่โมโหร้าย กลายเป็นใจเย็นลงกว่าเดิม ทำกับข้าวให้ดิฉันกิน ไม่ค่อยคุยกับผู้หญิงอื่น จนเพื่อนกลุ่มของเขาบอกว่าเขาคงจะหยุดอยู่ที่ดิฉัน แต่ในความคิดดิฉัน ต่อให้เขาจะทำดีอย่างไรคงลบแผลในใจดิฉันไม่ได้หรอก และคำพูดที่เขาพูดมาแต่ละครั้ง ดิฉันรู้สึกว่ามันเป็นคำหลอกลวง เชื่อถือไม่ได้ แล้วระยะหลังๆมาเขาจะพูดว่าดิฉันเปลี่ยนไป มีแต่ใช้กำลังทำร้ายร่างกายเขา จะเเกล้งเขาจนเขาเจ็บตัว และไม่ค่อยทนอะไรมากมายเหมือนเมือ่ก่อน คำพูดหยาบคายก็จะใช้พูดกับเขา เขาจะบ่นน้อยใจเสมอว่า เขาทำดีแล้วดิฉันก็ยังมองว่าเขาเลวเหมือนเมื่อก่อน ได้เขาจะเลวให้มากกว่าเมื่อก่อน แต่ดิฉํนก็ยังเห็นเขาเหมือนเดิม สอบถามจากเพื่อนเขาก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย เท่าที่ดิฉันมองและเห้นการกระทำของเขา เขาดีขึ้นมาก เขายอมดิฉันมากกว่าเมื่อก่อน แต่คำพูดของเขาเขาจะชอบพูดล้อดิฉันจนบางครั้งดิฉันทนไม่ไหวต้องทำร้ายร่างกายเขา เขาก็จะโกรธ แต่ก็โกรธไม่ถึงสองวันเราก็กลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิม และปัจจุบันนี้เขายังชอบพูดชอบล้อให้ดิฉันโกรธเหมือนเดิม แต่ดิฉันจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าเขา ดิฉันจะใช้วิธีเงียบ และร้องไห้ก่อนนอนทุกคืนโดยที่เขาไม่รู้ ดิฉํนกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคเกี่ยวกับทางจิต อยู่คะ เช่น โรควิตกกังวล อารมณ์สองขั้ว และความเรียด แต่ดิฉันไปเคยไปปรึกษาแพทย์เลย กลัวว่าตัวเองจะป่วยคะ
ความต้องการ
พระอาจารย์คะ ดิฉันอยากทราบว่า ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ ดิฉันอยากอยู่ด้วยความสุข มากกว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นคะ นมัสการขอบคุณค่ะ
ชื่อผู้ถาม
โอ
วันที่เขียน
30 กันยายน พ.ศ. 2556 15:21:48
จำนวนคนเข้าดู
2121

คำตอบ

คำตอบที่ 1
คุณยังเด็กกันทั้งคู่ ไม่น่ารีบเร้งมามีคนรัก มีแฟนและอยู่ด้วยกันแบบนี้เลย เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ ๆ ควรตั้งใจเรียน ตั้งใจศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด เพื่อจะได้ไปทำงานอย่างผู้มีความสามารถ หาเงินสร้างฐานะได้ดี เมื่อทำงานทำการแล้ว เป็นผู้ใหญ่มากพอแล้ว ค่อยมาสนใจเรื่อง"ผัวเมีย" แบบนี้ ก็เพราะยังเด็ก จิตใจไม่ได้หนักแน่นพอ ก็จะมีปัญหากันแบบนี้ตลอด เดี๋ยวก็เรื่องโน้นเดี๋ยวก็เรื่องนั้น ไม่จบสิ้น คู่ผัวเมียนักศึกษานั้น ยากจะไปกันได้ตลอดรอดฝั่ง มีน้อยคู่นักที่ไปกันได้ยาวนาน ซึ่งคุณทั้่งสองลองเอาข้อนี้ไปพิสูจน์ตัวเองดู แนะนำให้ไปวัด ไปเจริญภาวนาเดือนละครั้ง ๆ ละ 2-5 วัน จะทำให้คุณดีขึ้น แนะนำให้ไปวัดนี้ http://3pidok.com/main.php?url=news_view&id=8&cat=C หรือหากจะฝึกด้วยตัวเอง ให้ลองฝึกตามนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=17 อ่านหนังสือ 1000 เล่ม ปรึกษาคน 1000 คน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าไม่ลงมือทำ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 19:54:23
คำตอบที่ 2
กราบขอบพระคุณพระอาจารย์มากค่ะ ถ้าหากปิดเทอมหรือมีเวลาว่างดิฉันจะลองไปนั่งปฏิบัติธรรมดูค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
โอ
วันที่เขียน
4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 22:52:22
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร