ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เป้าหมายชีวิตผมกับเป้าหมายชีวิตที่พ่อแม่อยากให้ผมเป็น
รายละเอียด
ผมมีความรู้สึกกลุ้มใจอยากเรียนปรึกษาพระอาจารย์ครับ ผมเป็นลูกชาวนา อายุ 33 ปี จบป.ตรี วิทยาศาสตร์ ซึ่งพ่อแม่ก็หวังว่าจะให้ผมรับราชการ ตั้งแต่เรียนจบมา (ปี2545) ผมกับแม่พูดคุยกันเรื่องนี้มากว่า 10 ปีแล้ว และทุกครั้งแม่ผมก็ต้องน้ำตาตกใน เพราะเป้าหมายที่แม่อยากให้เป็นคือได้เห็นลูก (ตัวผม) รับราชการ แต่เส้นทางนั้นกลับไม่ใช่เส้นทางที่ผมเลือกเดิน ที่ผ่านมาผมเลือกเดินบนเส้นทางสายพ่อค้า....ขายนั้นขายนี่....ประสบความสำเร็จบ้าง....แต่ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ (ไม่เคยเอาเงินทางบ้านมาลงทุนเลย) ผมก็เสียใจทุกครั้งที่แม่พูดว่าอยากเห็นลูกชายรับราชการ...เสียใจที่ผมไม่ได้ทำตามที่แม่คาดหวัง...เสียใจที่เป็นลูกที่ไม่ปฏิบัติตามคำสอน คำบอกของแม่....แม่พูดเสมอว่าถ้าเชื่อแม่ป่านนี้ได้บรรจุราชการแล้ว...มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึก..ที่แย่ๆ...เหมือนกับว่าผมเป็นลูกที่ไม่ดี....ไม่ทำตามท่านบอก มาวันนี้พ่อกับแม่ผมก็มาพูดกับผมอีกว่าให้ผมไปสอบรับราชการซะ....จะได้มีการงานมั่นคง....แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมครับ....คือเส้นทางสายข้าราชการผมไม่ได้ว่าไม่ดี....แต่มันไม่ใช่เป้าหมายที่ผมต้องการเลย....ปัจจุบันผมวางแผนเป้าหมายชีวิตจะกลับไปทำเกษตรที่บ้านครับ (ผมมีทุนอยู่ก้อนหนึ่ง)..ใช้ชีวิตแบบพอเพียง...ยืนหยัดด้วยลำแข้งตัวเอง ได้อยู่กับพ่อแม่ ดูแลท่านผมคิดแบบนี้........แต่ท่านกลับไม่เห็นด้วย ท่านบอกว่าอาชีพไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรี ในสังคม งานก็หนักจะมาทำได้อย่างไร...ทั้งๆท่านเองก็เป็นชาวนา....เลี้ยงผมให้อยู่กับนากับไร่มาตั้งแต่เด็ก....ชีวิตผมผูกพันกับเกษตรมาตลอด....มาวันนี้ผมรู้เส้นทางชีวิตที่ผมจะเลือกเดินได้อย่างตกผลึก....ผมมีประสบการณ์เรื่องค้าขายมาแล้ว.....จะนำมาปรับใช้กับการทำเกษตรแบบพอเพียง พึ่งตนเอง...อยู่กับพ่อแม่เลี้ยงดูท่าน....แต่ท่านก็ไม่ฟังผม...จะให้ผมไปสอบบรรจุรับราชการอย่างเดียว.....
ความต้องการ
ขอคำแนะนำท่านพระอาจารย์ด้วยครับ ในฐานะที่เผมเป็นลูกผมควรจะปฏิบัติอย่างไร?..จะลือกแบบไหน?...เส้นทางที่พ่อแม่เลือกให้.....กับเส้นทางที่เราเลือกเดินแต่พ่อแม่ไม่ชอบ...และปรับจิตปรับใจอย่างไรบ้าง...ต่อไปในอนาคต ขอบพระคุณครับ
ชื่อผู้ถาม
ยา
วันที่เขียน
15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 05:24:58
จำนวนคนเข้าดู
1532

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1. การที่เรารู้ตัวเราเองว่า ทำอะไรอยู่และมีเป้าหมายชัดเจนนั้น เป็นสิ่งสำคัญมาก หลายคนทุกข์ทรมานไม่น้อยเพราะไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และต้องทำตามความคิดคนอื่นไปเรื่อย ๆ 2. คนรุ่นเก่า ๆ บางคนไม่ได้เข้าใจแง่มุมบางด้านของอาชีพราชการ จึงเห็นว่ามีเกียรติ คิดแต่ว่ามั่นคง คิดว่าสบาย เขาก็เลยว่าดี ซึ่งราชการนั้น หลายคนจะก้าวหน้าได้ ต้องสังเวย ต้องส่งส่วย ต้องจ่ายเงินค่าตำแหน่งก็มีมากมาย ถ้าคุณมั่นใจในตัวเองแล้ว ก็จงทำตามความคิดตนเองเถิด 3. พ่อแม่ วันนี้ ท่านไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร วันหน้าท่านจะเข้าใจเอง 4. เดินหน้าศึกษาพัฒนา อดทนคิดค้นผลิตผลงานที่คุณคิดแล้วนำออกมาขายมาจำหน่าย สร้างเครือข่าย สร้างแนวร่วมให้เจริญก้าวหน้าต่อไปให้ได้ เมื่อถึงวันนั้น คุณก็ไม่ต้องอธิบายอะไรให้พ่อแม่ฟังอีกแล้ว เพราะผลงานมันชัดแจ้งอยู่แล้ว ทุกอาชีพ ทุกการทำงานล้วนมีมีจุดง่ายจุดยาก จึงต้องวัดกันที่สติปัญญา ความอดทน ความมุมานะ ความแน่วแน่และความซื่อสัตย์สุจริต
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 22:33:25
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร