ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เรื่องเรียน เงิน ครอบครัว
รายละเอียด
ที่มหาวิทยาลัย เขาให้นิสิตไปเรียนต่อต่างประเทศอย่างน้อย 1 เทอม ซึ่งต้องใช้เงินประมาณ 2แสนบาท ไม่งั้นไม่สามารถรับใบจบได้ คือทางบ้านไม่มีเงินมากขนาดนั้น แต่เคยบอกแม่ว่าให้เก็บไว้นะ แม่เคยมีเงินก้อนค่ะ ประมาณ3แสนบาท แต่สุดท้ายแม่เอาไปลงทุน ขาดทุนหมดเลย ส่วนพ่อเลิกกับแม่แล้วค่ะ แต่ยังมาหาเดือนละครั้งมาอาศัยเพราะพ่อทำงานเป็นเซลล์ต้องอยู่ต่างจังหวัดตลอด พ่อให้เงินค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ5พันบาทค่ะ ส่วนพี่สาวให้อีก1หมื่น แม่ต้องเลี้ยงน้องอายุ17 เลี้ยงดิฉันอายุ20แล้ว ตอนนี้พ่อกับแม่ทะเลาะกันตลอดเรื่องเงินส่งดิฉันไปเรียนประเทศจีน ดิฉันรุ้สึกแย่มาก ไม่น่าเลือกเรียนเอกภาษาจีนเลย ไม่คิดว่าจะต้องเสียเงินมากขนาดนี้กับการเรียน พ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกครั้งเลยค่ะ แม่ก็จะเอาเงินค่าเลี้ยงดูเพิ่มเปน1หมื่น พ่อก็ไม่ค่อยมีเงิน แล้วแม่ก็บังคับให้พ่อเอาเงินส่งดิฉันเรียนประทเศจีนอีก ดิฉันสงสารพ่อค่ะ สงสารพี่สาวด้วย พี่สาวจ่ายค่าเทอมให้ดิฉัน พี่สาวน่ารักมาก ดูแลทุกอย่าง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ดิฉันไม่รู้จะแก้้อะไรก่อนดี ไม่รุ้จะต้องทำยังไง
ความต้องการ
อยากหาแนวทางแก้ไขเรื่องนี้ ตอนนี้เคว้งมาก หลายเรื่องรุมเร้า
ชื่อผู้ถาม
วรรณ
วันที่เขียน
23 ตุลาคม พ.ศ. 2556 15:22:43
จำนวนคนเข้าดู
1636

คำตอบ

คำตอบที่ 1
น้องวรรณเป็นลูกที่ดีมากครับที่มีจิตใจเป็นห่วงทางบ้าน เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ทำให้ต้องเสียเงินเก็บไปก้อนใหญ่จากการลงทุนนั้นเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว และการเลือกเรียนเอกจีน ก็ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาเลย ได้โปรดอย่าโทษตัวเองครับ อาจารย์คิดว่าตัวน้องวรรณคงแอบคิดว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน แต่อาจารย์เชื่อว่าต้นเหตุไม่ได้เกิดจากตัวน้องวรรณหรอกครับ เพราะปัญหาทุกๆอย่างล้วนเกิดจากสาเหตุหลายๆอย่างที่ผสมกันมาตั้งแต่อดีตที่สะสมกันมาเป็นระยะเวลาพอสมควรเพียงแต่มาออกผลในช่วงนี้ที่ต้องใช้เงินเท่านั้น ถึงแม้จะไม่มีเรื่องของน้องวรรณ อาจารย์ก็ยังเชื่อว่าปัญหาอาจคงยังเกิดขึ้นกับเรื่องอื่นอยู่ดี ดังนั้น น้องวรรณอย่าโทษตนเองมากจนเกินควรนะครับ สำหรับแนวทางแก้ไขนั้น อาจารย์ขออนุญาตแนะนำ ดังนี้ สำหรับเงิน 2 แสนบาทนั้น เบื้องต้นอาจารย์แนะนำว่าควรปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เพราะเงินจำนวนนี้อาจจะมากเกินกว่าตัวน้องวรรณที่จะนำไปคิดในเวลานี้ แต่สิ่งที่จะแนะนำเบื้องต้นก็คือ ให้น้องวรรณลองไปติดต่อในอาจารย์ที่รับผิดชอบหลักสูตรไปเรียน เมืองจีน ที่คณะฯในมหาวิทยาลัยว่า พอจะมีทุนให้กู้ยืมหรือไม่ เพราะทางมหาวิทยาลัยอาจจะมีทุนหรือมี connection กับธนาคารของภาครัฐ เช่น ธนาคารออมสินฯ ที่มีการปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีเงื่อนไขการใช้ทุนการศึกษาที่ไม่รัดตัว อาจอนุญาตให้ผ่อนใช้หลังจากศึกษาจบ หรือ ศูนย์ สายใจ กยศ. กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โทร 026104888 หรือลองติดต่อธนาคารกรุงไทย ตามรายละเอียดด้านล่าง เผื่อจะมีแนวทางที่ดีแก่เราได้ WLC ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อประเทศจีน ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย เปิดมิติใหม่วงการศึกษาไทย ด้วยการเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาไทยมีสิทธิกู้ยืมเงินทุนการศึกษา เพื่อไปศึกษาต่อที่ประเทศจีนทั้งในหลักสูตรการเรียนภาษาจีน 1 เทอม , 1 ปี และหลักสูตรปริญญาตรี หรือ ปริญญาโท วัตถุประสงค์ของโครงการ -เพื่อช่วยเหลือนักเรียนไทยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความประสงค์ที่จะไปศึกษาต่อ ณ ประเทศจีนในหลักสูตรการเรียนภาษาจีน 1 เทอม , 1 ปี และหลักสูตรปริญญาตรี หรือ ปริญญาโท -เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น และเป็นการเพิ่มศักยภาพความสามารถของนักเรียนไทยทางด้านภาษาจีน คุณสมบัติของผู้กู้ -มีสัญชาติไทย -อายุ 18 ปี ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 30 ปี -เป็นผู้ที่จะเดินทางไปศึกษาต่อ หรืออยู่ในระหว่างการศึกษาต่อต่างประเทศ โดยมีการรับเงินเดือนผ่านบมจ.ธนาคารกรุงไทย -เป็นบิดา หรือมารดา หรือผู้ปกครองหรือญาติ ของนักเรียน/นักศึกษาที่จะเดินทางไปศึกษาต่อ -เป็นผู้มีรายได้แน่นอน หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ระยะเวลาให้กู้ และการผ่อนชำระหนี้ - ระยะเวลาการให้สินเชื่อและการผ่อนชำระ สูงสุดไม่เกิน 10 ปี และ ไม่เกินเกณฑ์ตามคุณสมบัติของผู้กู้ -ในกรณีที่กู้เรียนระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท การต่อสัญญาเงินกู้ต้องต่อสัญญาปีต่อปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-255-4084-5 ในวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 10:00 – 17:00 น. E-MAIL : wlc2china@hotmail.com , wlcchina@hotmail.com และมีอีกมากมายใน internet แต่ขอให้คัดเลือกแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น จากภาครัฐบาล ก็จะปลอดภัย เมื่อได้ข้อมูลแล้วลองนำมาปรึกษากับทางบ้านว่ามีความคิดเห็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม น้องวรรณ ต้องระมัดระวัง เรื่องแนวคิดการหาเงินด้วยตนเองให้ดีนะครับ เพราะปัจจุบันมีมิจฉาชีพที่แสวงหาผลประโยชน์จากหญิงสาวที่เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เช่น ชักชวนให้ไปทำงานบางอย่างที่ได้เงินมากๆได้ง่ายๆ อาจารย์ขออนุญาตเตือนประมาณนี้น้องวรรณคงพอจะเดาได้นะครับ น้องวรรณอย่าเก็บความอัดอั้นไว้ แต่ให้เราหาทางออกที่ดีๆที่มีอยู่มากมายภายนอก ขอเพียงเราอย่าหยุดที่ตัวเองเพราะมันจะตันครับ เท่าที่รับฟังมานะครับ ทางบ้านของน้องวรรณค่อนข้างมีปัญหา แล้วดูคุณแม่และพี่สาวคงเครียดไม่น้อยเลย อาจารย์อยากให้น้องวรรณช่วยดูแลความรู้สึกของคุณแม่และพี่สาวโดยเฉพาะพี่สาวที่แสนดีคนนี้ และช่วยประหยัดและหาอาชีพเสริมที่เหมาะกับวัยทำ เช่นการทำ Part-time ที่ปลอดภัย ทำนะครับ ท้ายที่สุดนี้ อาจารย์ขอให้น้องวรรณมองเรื่องที่เกิดขึ้นในแง่บวกนะครับ และเก็บทุกอย่างไว้เป็นบทเรียนในการดำเนินชีวิตต่อไป ไม่ว่าจะเป็น การวางแผนทางการเงิน การบริหารเงิน ปัญหาครอบครัว การใช้ปัญญาในการวิ่งหาทางออก ความอดทน เพราะทุกอย่างจะช่วยหล่อหลอมให้น้องวรรณเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ไม่สร้างปัญหาซ้ำรอยเหมือนใครหลายๆคนต่อไปในอนาคต อาจารย์ขอบารมีคุณพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ทั้งหมดได้โปรดคุ้มครองให้น้องวรรณจงมีสติและพบกับโอกาสที่ดีงามของชีวิตนะครับ
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 399
วันที่เขียน
24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 09:43:39
คำตอบที่ 2
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ไม่รู้จะพูดยังไงแต่ขอบคุณมากจริงๆ รู้สึกดีขึ้นมากๆ และขอบคุณที่หาแนวทางในการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษานะคะ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
ชื่อผู้ตอบ
วรรณ
วันที่เขียน
25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 13:10:06
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร