ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

สอบถามปัญหาธรรม
รายละเอียด
1.โหตุ กับ โหนตุ ต่างกันอย่างไร 2. นอนสวดมนต์ได้หรือไม่ 3.เปิดฟังบทสวดมนต์จนหลับไปได้หรือไม่ 4.ทำบุญแต่ไม่ได้กรวดน้ำสามารถกรวดแห้งหรือกรวดในคราวเดียวกันที่กรวดน้ำได้ ได้หรือไม่ 5.สวดมนต์แบบไม่เปิดหนังสือถ้าสวดผิดหรือจำผิด ผิดไหม 6.ถ้าคนที่เราอยากขออโหสิเค้าไม่เข้าใจภาษาเราจะทำอย่างไรได้บ้าง
ความต้องการ
ขอคำตอบ
ชื่อผู้ถาม
สงสัย
วันที่เขียน
12 มิถุนายน พ.ศ. 2561 20:50:58
จำนวนคนเข้าดู
1101

คำตอบ

คำตอบที่ 1
1.โหตุ กับ โหนตุ ต่างกันอย่างไร ตอบ ทั้งโหตุ และโหนตุ เป็นคำกริยาในภาษาบาลี แปลว่า จงมี จงเป็น ขอจงมี ขอจงเป็น โหตุ ใช้กับ คนเดียว หรือสิ่งเดียว ส่วน โหนตุ ใช้กับ หลายคน หรือหลายสิ่ง เช่น อะยัง สตฺโต อเวโร โหตุ (ขอสัตว์นี้จงเป็นผู้ไม่มีเวร) กับ สัพเพ สัตตา อเวรา โหนตุ (ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งหมดจงเป็นผู้ไม่มีเวร) เวร แปลว่า โกรธ แค้นเคือง โทสะ 2. นอนสวดมนต์ได้หรือไม่ ตอบ คนที่สุขภาพแข็งแรงโดยปกติ ไม่ควรทำ เพราะจะสวดไม่จบ และอาจหลับไปก่อนได้ แต่สำหรับคนที่มีปัญหาทางสุขภาพแล้ว ทำได้ นอนสวดมนต์ได้ ไม่แปลกอะไร 3.เปิดฟังบทสวดมนต์จนหลับไปได้หรือไม่ ตอบ ได้ ดีด้วยซ้ำ ดีกว่าเปิดฟังเพลง หนังละคร เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ติดใจ ติดสนุกได้ 4.ทำบุญแต่ไม่ได้กรวดน้ำสามารถกรวดแห้งหรือกรวดในคราวเดียวกันที่กรวดน้ำได้ ได้หรือไม่ ตอบ การกรวดน้ำ จะกรวดหรือไม่กรวดก็ได้ ที่นำน้ำมากรวดด้วย เพราะน้ำ มีธรรมชาติเย็น คนกรวดมองดูสายน้ำที่ไหลลงไปแล้ว จะรู้สึกเย็นกายเย็นใจไปด้วย เป็นวิธีทำสมาธิอย่างหนึ่ง 5.สวดมนต์แบบไม่เปิดหนังสือถ้าสวดผิดหรือจำผิด ผิดไหม ตอบ ไม่เหมาะ ควรสวดให้ถูกต้อง ไม่ใช่สวดแบบผิด ๆ แรก ๆ เราอาจเปิดดูก่อนได้ เมื่อจำได้แล้ว ก็ไม่ต้องเปิดดู 6.ถ้าคนที่เราอยากขออโหสิเค้าไม่เข้าใจภาษาเราจะทำอย่างไรได้บ้าง ตอบ ก็ต้องหาคนที่สื่อสารรู้เรื่องมาเป็นคนกลาง พูดแทนเรา อโหสิ แปลว่า ได้มีแล้ว ผ่านไปแล้ว จบไปแล้ว ไม่ต้องมีการก่อเวรต่อกันอีก ก็คือการให้อภัยกันนั่นเอง เรื่องนี้ จุดสำคัญอยู่ที่ตัวเรา เรายกโทษ เราให้อภัยให้เขาได้ไหม เมื่อเราทำได้ ใจเราจะเย็นและสงบ ส่วนเขาจะรับรู้หรือไม่รับรู้ ไม่สำคัญเลย อโหสิกรรม เป็นการกระทำของคนใจใหญ่ ใจสูง คนที่ใจมีเมตตาเต็มเปี่ยมเท่านั้น จึงจะทำได้ เรื่องการสวดมนต์ ดูตรงนี้ประกอบ https://drive.google.com/file/d/1r53rtiUyMZbiciPgCFyhh0HxOwdsL8NZ/view
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
12 มิถุนายน พ.ศ. 2561 22:56:17
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร