หมายเหตุ สายด่วนชาวพุทธ

ทำอย่างไร ถ้ายังกลัวผี กลัววิญญาณ กลัวสิ่งลึกลับต่าง ๆ
การกลัวผี กลัววิญญาณ กลัวสิ่งลึกลับนั้น เป็นปกติธรรมดาของคนที่ฝึกสติมาน้อย แท้จริง เราสามารถทำให้ความกลัวเบาบางและหายขาดได้

เพียงฝึกใจให้สงบ มั่นคง ไม่หวั่นไหวกับเสียงเล่าเสียงลือ คำพูดบอกเล่าของใคร ๆ เราฟังเขาพูดแบบนั้นได้ แต่ให้วางเฉยเสีย
ถ้าเรารักษาศีลมั่นคง แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ก่อนนอนทุกวัน ไม่มีผีหรืออะไร (ที่เรานึกคิดจินตนาการ) มาทำอะไรเราได้แน่นอน

จริง ๆ แล้ว คนเรากลัวกับจินตนาการของตนเองตามที่ตัวเองได้ฟังมา ได้ยินมา และยึดถือมาแบบนั้น ถ้าเราฝึกสติ ฝึกเข้าใจและรู้ทุกสิ่งในขณะปัจจุบันตามสภาพจริง ปล่อยวาง ไม่ยึดติด เราจะมีความมั่นใจ ความกลัวทุกชนิดก็จะหายไปเอง

ถ้ายังกลัวผี กลัววิญญาณ กลัวสิ่งลึกลับอยู่ การสวดมนต์ก่อนนอน ก็ช่วยได้ และบทสวดมนต์นั้น เพียง-
1. นะโม ฯลฯ
2. อิติปิโส ฯลฯ
3. แผ่เมตตา 
เพียงเท่านี้ ก็ดีมากแล้ว คือเราสวดบทไหนได้ ก็สวดบทนั้น

แต่ต้องเข้าใจให้ชัดก่อนว่า การสวดมนต์นั้น มีจุดประสงค์เพื่อฝึกใจให้มีสมาธิ เพื่อขจัดความเกียจคร้านให้ตัวเราเอง เพื่อทรงจำ สืบต่อและทบทวนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

การสวดมนต์ของชาวพุทธ ไม่ใช่การสวดเพื่อให้เกิดความขลัง หรือสวดเพื่ออ้อนวอนให้ประสบความสำเร็จอย่างนั้นอย่างนี้ หรือสวดเพื่อขอให้ได้อย่างนั้นอย่างนี้ ฯลฯ แบบที่คนจำนวนมากเข้าใจ

ถ้าเราอยากให้การสวดมนต์ มีอานิสงส์มาก ๆ คือเกิดผลทำให้เรามั่นคง ใจสงบ มีความสุข เราต้อง
1. มีสมาธิจดจ่อกับบทสวด ในขณะสวดมนต์ (สวดไปตามปกติ ไม่เร่งให้จบ ๆ ไป ไม่ช้าเนิบนาบจนชวนง่วงนอน)
2. เข้าใจความหมายบทที่สวด แปลว่าอะไรบ้าง (เราต้องศึกษาหาความรู้ว่า ที่เราสวด ๆ เป็นภาษาบาลีนั้น แปลว่าอะไร)
3. มีจิตเมตตา มุ่งหวังให้ทุกชีวิตในโลกนี้มีความสุข ไม่เบียดเบียดกัน ไม่มีทุกข์ภัย ไม่ใช่สวดเพื่อหวังจะได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ หวังรวย หวังได้เงินทอง หวังลาภยศชั้นฐานะตำแหน่งต่าง ๆ แบบนี้ไม่ใช่

ทุกคน มีกรรมคือการกระทำเป็นของตัวเอง เราต้องเชื่อในหลักการนี้ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ ในชีวิตคนเราแต่ละคน เราอยากได้อะไร อยากได้แบบไหน  ต้องลงมือทำเอง อย่าไปหวังพึ่งใคร อย่าไปอ้อนวอนให้ใครหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ มาดลบันดาลช่วยเราให้ประสบความสำเร็จ เพราะเรามีกรรมเป็นของตัวเอง เราทำแบบใด ก็จะได้แบบนั้น เมื่อเราทำเหตุให้เหมาะสม ก็จะได้ผลที่เหมาะสมเช่นกัน

ควรฝึกพิจารณาดูความจริงนี้บ่อย ๆ จะได้ไม่ประมาท
http://www.buddhisthotline.com/index.php…

ฝึกเข้าใจสภาพจริงของชีวิตตามนี้
http://www.buddhisthotline.com/index.php…

ฝึกสติให้ตัวเอง เพื่อการอยู่กับปัจจุบันขณะให้ได้ ตามนี้ 
http://www.buddhisthotline.com/index.php…

วันหยุดยาว ๆ เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ ตรุษจีน งดเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่อยู่ ไปอยู่วัดถือศีลปฏิบัติธรรมบ้าง จะดีมาก ลองไปที่นี่
http://www.buddhisthotline.com/index.php…

หรือที่นี่ http://www.buddhisthotline.com/index.php…

ตัวอย่างดาราบางคนที่ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างก้าวหน้า น่าชื่นชม
http://www.buddhisthotline.com/index.php…

อย่าพลาด หลักใหญ่ในการดำเนินชีวิตแบบชาวพุทธ
ตามนี้ http://www.buddhisthotline.com/index.php…

จงเชื่อมั่นว่า เราเกิดมาเพื่อพัฒนาตัวเอง เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้กับตัวเราเอง ให้กับสังคม ให้กับโลกเท่านั้น ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำสิ่งไร้สาระ หรือเพียงแค่กิน ๆ เล่น ๆ เที่ยว ๆ เฮฮา ๆ อวดมี อวดรวย อวดสวย อวดหล่อ หาแฟน หาคู่ ฯลฯ อะไรแบบนั้น

คนอื่น เขาจะทำหรือไม่ทำอะไร นั่นเป็นชีวิตของเขา เขาจะดีหรือไม่ดีอย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่เขาเลือกทำเอง ใครทำสิ่งใดไว้ ก็จะได้ผลแบบนั้น เขาจะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่เราจะสร้างสรรค์สิ่งทีดีงามไม่ขาด แม้ว่าคนอื่นจะทำหรือไม่ทำแบบเราก็ตาม จงยึดหลักแบบนี้ไว้
เขียนโดย : สายด่วนชาวพุทธ
เขียนเมื่อ : 10 มกราคม พ.ศ. 2559
อ่าน : 2863

หมายเหตุอื่นๆ

When one lacks mindfulness, they can commit any kind of evil deed.
เขียนเมื่อ : 15 เมษายน พ.ศ. 2567 (เปิด11)
If suicidal thoughts or a desire to end your life arise, swiftly dismiss them within three seconds.
เขียนเมื่อ : 5 เมษายน พ.ศ. 2567 (เปิด31)
What to Do When Hearing News of Suicide
เขียนเมื่อ : 5 เมษายน พ.ศ. 2567 (เปิด29)
Protective Chant against Suicide
เขียนเมื่อ : 5 เมษายน พ.ศ. 2567 (เปิด34)