คำตอบที่ 1
เมื่อได้รับรู้และเข้าใจว่าอะไรจริง อะไรไม่จริงมากว่า 3 ปีแล้ว ถ้าจะทนอยู่อีก ก็คงใช้เวลา 20-30 ปี ทนอยู่แบบนี้ไหวไหม
ใจมันจะเครียด ร้อนตลอด ยอมรับได้ไหม ต้องถามตัวเอง
ถ้าคิดว่า อยู่แบบนี้ทุกข์ เครียดทั้งสองฝ่าย การไม่อยู่แบบนี้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
พาลูกกลับบ้านเรา อยู่กับญาติ ๆ กับพ่อแม่เรา แม้ว่าจะอดมื้อกินมื้อก็จะดีกว่า
ไม่ต้องไปกังวลว่า ลูกจะไม่ได้เจอพ่อ วันข้างหน้า เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะเข้าใจเองว่า ทำไมเราต้องเลือกทำอย่างนี้
และเขาจะต้องมีโอกาสได้พบพ่อเขาแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เรื่องศาสนา ไม่เกี่ยวกับการทำให้ใครเป็นแบบนี้ ศาสนาใด ๆ ถ้าเข้าใจจริง ก็ล้วนทำให้มีความสุขกันได้ทั้งนั้น
อย่าโลเลลังเล จะเลือกทางใดก็เลือกเลย วางแผนให้ดี
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
21 มิถุนายน พ.ศ. 2557 20:59:18
คำตอบที่ 2
บางทีหนูก็คิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอ แต่บางทีก็อ่อนแอ่มากจนไม่กล้าตัดสินใจ กลัวไปหมดทุกเรื่อง เงินก็ไม่มีจะซื้อตั๋ว
ที่จริงหนูเคยเลิกกับเขาสามครั้งแล้ว
ครั้งที่1หนูท้องได้6เดือน ตอนนั้นหนูอ่อนแอ่มากยอมออกเงินซื้อตั๋วเครื่องบินมาง้อเขาถึงออสเตรเลีย ครั้งที่2ลูกได้6เดือนหนูคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอเลยพาลูกกลับบ้าน(เขาก็อยากเลิกแหมือนกัน)แต่หลังจากนั้น3เดือนเขาก็กลับมาง้อหนูถึงเมืองไทยครั้งที่3ลูกได้ขวบ4เดือนหนูมีความจำเป็นทีจะต้อง กลับไทยแต่เขาไม่ให้เอาลูกกลับด้วย หนูเลยกลับคนเดียวใจคิดว่าทิ้งลูกไว้ที่นี้แหละเขาคงสบายกว่าอยู่กับหนู(หนูคิดว่าจะไม่กลับมาอีกแล้ว)แต่หลังจากนั้น2อาทิตย์หนูทนคิดถึงและสงสารลูกไม่ไหวก็เลยกลับมา หนูกลัวหนูไม่เข็มแข็งพอ ถ้าหนูอยากกลับไทยก็ต้องหนีกลับค่ะ คนเคยอยู่ด้วยกันก็มีความผูกพันถึงแม้ความสัมพันธ์จะไม่ค่อยดี มันลังเลบอกไม่ถูกค่ะ หนูจะทำยังไงค่ะถึงจะเข็มแข้งกล้าตัดสินใจ
ขอบคุณท่านอาจารย์มากนะค่ะ ที่ให้คำปรึกษา
ชื่อผู้ตอบ
แมรี่
วันที่เขียน
22 มิถุนายน พ.ศ. 2557 07:27:03