ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)
ควรอยู่หรือควรไป
รายละเอียด
โยมคบกับแฟนโยมมาได้รวม4ปีกว่าจนถึงปัจจุบัน ตอนแรกที่จะคบกันแฟนโยมบอกกับโยมว่าตัวเขาโสดไม่มีแฟน เราเลยตกลงคบหากันเป็นแฟนและคิดวางแผนจะสร้างอนาคตไปด้วยกัน จนกระทั้งเวลาผ่านไป2ปี โยมไปหาเค้าที่ตจว. โยมไปๆมาๆระหว่างบ้านโยมกับบ้านแฟนโดยที่พ่อแม่โยมไม่ทราบ โยมทำแบบนี้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน เรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่าการเป็นแฟนกัน จนเวลาผ่านไปเกือบเข้าปีที่4ที่เราคบกัน วันนั้นโยมไปหาแฟนโยมที่ตจว.ที่เค้าอาศัยอยู่ พอดีมีโทรศัพท์เข้าที่เครื่องแฟนโยมเป็นเมียเค้าโทรมา โยมไม่ทราบมาก่อนว่่าเค้ามีภรรยาและลูกแล้ว โยมพยายามตัดใจจากเค้าโยมบอกเลิกเค้า แต่เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้รักกันแล้วจะเลิกกันอยู่แล้วแต่โยมมารู้ความจริงก่อน เขาบอกกับโยมว่าอย่าทิ้งเขา แฟนโยมรักโยมมากเค้าไม่อยากเสียโยมไป โยมก็รักเค้ามากเช่นกัน โยมจึงให้โอกาสเค้า โยมบอกให้เค้าเลิกกับเมียเค้าเพราะโยมไม่อยากเป็นชู้ ไม่อยากเป็นเมียน้อย โยมไม่ทำผิดศีล หลังจากวันนั้นโยมมาอยู่กทม.โยมคุยโทรศัพท์กับแฟนโยมเกือบทุกวันเป็นประจำ โยมได้ถามเค้าว่าเลิกกันหรือยัง แฟนโยมก็บอกว่าเลิกแล้ว โยมก็เชื่อเค้า แต่พอเวลาผ่านไปเมียเค้าโทรมาด่าส่งข้อความมาว่าว่า"โยมแย่งผัวเขา เมื่อไหร่จะไปจากชีวิตพวกเค้าสักทีจะตามจองเวรกันไปถึงไหน" โยมไม่อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้โยมไม่อยากถูกด่าถูกว่า โยมถามแฟนโยมประจำว่าเค้าเลิกกับเมียเค้าหรือยัง แฟนโยมเค้าก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่า"เลิกแล้วไม่มีอะไร แค่คนมันเจ็บมันเลยพาล" โยมโดนเมียเค้าส่งข้อความมาว่าตลอดจนถึงปัจจุบัน โยมเคยบอกกับแฟนโยมว่าถ้าเลิกกับเมียเค้าแล้วก็อย่าติดต่อกันอย่าพบเจอกันอีกขอให้ตัดกันให้ขาด แต่เมื่อว่านโยมไปเห็นรูปแฟนโยมถ่ายรูปกับเมียและลูกของเค้าซึ่งเป็นรูปปัจจุบันที่เพิ่งถ่าย พอโยมถามแฟนโยมก็บอกว่าไปงานกีฬาของลูกมา ไปเพื่อลูกไม่มีอะไร
(ความคิดของโยม)
โยมคิดว่าเค้ายังไม่เลิกกัน โยมพยายามคบกับคนใหม่แล้วแต่ก็คบไม่ได้นาน โยมรักแฟนโยมมากและโยมก็เชื่อว่าเค้ารักโยมมากเหมือนกัน โยมพอรู้ตัวว่ามันเป็นกรรมที่โยมเคยทำไว้ในอดีตชาติกับพวกเขาเหล่านี้โยมจึงต้องมาชดใช้กรรมของโยม แต่โยมก็อยากหลุดพ้นอยากผ่านเรื่องเลวร้ายนี้ไป โยมทุกข์มากตอนนี้ โยมทะเลาะกับแฟนทุกวันเพราะเรื่องนี้ โยมนอนร้องไห้ทุกคืนที่โดนเมียเค้าด่า โยมหมดหนทางแล้วไม่มีที่ปรึกษาที่ไหนพูดกับใครก็ไม่ได้ พระอาจารย์ช่วยโยมหน่อยนะคะ
ความต้องการ
โยมไม่อยากโดนเมียเค้าด่าอีกแล้ว โยมรับไม่ได้กับคำพูดของเมียเค้าที่รุ่นแรงหยาบคลายพูดจาเสื่อมเสียไปถึงพ่อแม่ของโยมที่ท่านไม่เกี่ยวข้องด้วย โยมควรทำอย่างไงดีถึงจะไม่โดนด่าอีก?
โยมควรเชื่อที่แฟนโยมพูดหรือไม่?(แต่เค้าเป็นคนชอบโกหกเพื่อให้โยมสบายใจ)
โยมควรปฏิบัติตัวยังไงกับแฟนโยม?
โยมควรปฏิบัติตัวยังไงกับภรรยาเค้า?
โยมควรจะคบกับเค้าต่อหรือโยมควรจะไปจากเค้า?
โยมอยากหลุดพ้นจากเรื่องแบบนี้เพราะมันเกิดขึ้นกับตัวโยมมาเป็นระยะเวลานานพอแล้ว โยมควรทำอย่างไร?
ถ้าโยมต้องไปจากเค้าแต่โยมตัดใจไม่ได้ ไปจากเค้าไม่ได้โยมควรทำอย่างไร?
ชื่อผู้ถาม
นางฟ้า
วันที่เขียน
8 กันยายน พ.ศ. 2557 03:01:49
จำนวนคนเข้าดู
2553
คำตอบ
คำตอบที่ 1
การตกอยู่ในสภาพไม่ได้อย่างใจด้วยหลายปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจไม่ได้ล้วนเป็นทุกข์ เรากำลังยื้ออยู่กับความต้องการ,ความจริงและความถูกต้อง
เราต้องถามตัวเองก่อนว่า ควรมีอะไร หรือหลักฐานอะไรที่จะทำให้เราเชื่อมั่นได้ 100% ว่าเขาสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้วจริง บอกตัวเองว่าถ้าเห็นเช่นนั้นแล้วฉันถึงจะเชื่อ เพราะตอนนี้คำพูดจากเขา เราไม่สามารถเชื่อใจได้อีกแล้ว
เมื่อทราบว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันจริงๆก็ให้เมตตาเด็ก เราจะใจเย็นลง และใช้ชีวิตของเราไป ส่วนภรรยาเก่านั้น เขาจะทุกข์จะมีโทสะ จิตใจเขาก็ร้อนรนของเขาเองเราห้ามเขาไม่ได้ เพราะเราเองก็ไม่ได้เจตนา
ถ้าแฟนไม่สามารถให้ความชัดเจนแก่เราได้ ต้องยอมรับไปว่ามันจะทุกข์แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนวันที่เรามีลูก มีสินทรัพย์ร่วมกันจะยิ่งลำบาก
ที่กล่าวมาไม่ใช่ให้ทุกข์กว่าเดิม แต่ให้ดึงเอาความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง ศักดิ์ศรี สติ ความรู้ สัญชาติญาณ และ กำลังใจ ออกมาใช้
กล้าหาญที่จะยอมรับในจุดจบที่อาจจะไม่สวยงามนัก
เข้มแข็งที่จะเดินต่อไปบนทางที่เราตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง
มีศักดิ์ศรีเชื่อมั่นในตัวเองว่าเรามีคุณค่า อย่าให้ใครมาตัดสินชีวิตเรา
ใช้สติพิจารณาเนื้อหา และข้อมูลที่ได้รับมาจากคู่กรณีทุกคน รวมถึงใช้ในการตัดสินใจ
ใช้ความรู้ ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ประสบการณ์ที่ได้ยินมาจากคนอื่นๆ ดูว่าแต่ละคนที่คล้ายๆเราเขาทำอย่างไรอันไหนดีไม่ดี และใช้ความรู้ที่สั่งสมมา ไปประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเอง (ในกรณีจำเป็นต้องย้ายงาน) ยอมรับให้ได้ว่าเรามีความสามารถพอที่จะหาทางเอาตัวรอดได้
สัญชาติญาณ เชื่อมัน ผู้หญิงมีสัญชาตญาณนี้มาทุกคน เมื่อใจบอกเช่นไร ก็หาเหตุผลมาแล้วตัดมันออกไปถ้ามันทำให้เราทุกข์
เราต้องมีกำลังใจเสมอไม่ว่าใครจะมาว่าเรายังไง เพราะเราไม่ได้ตั้งใจ อย่าคิดว่าเราไม่มีค่า เรามีค่าเสมอคนผิดไม่ใช่เรา
การจะผิดไม่ผิด ขึ้นอยู่กับเจตนา เราเจตนาทำให้พวกเขาเดือดร้อนมั้ย เมื่อรู้ว่าผิดพลาดเราได้แก้ไขมันมั้ย ถึงแม้เราจะคิดว่าเป็นกรรมเก่า แต่เมื่อเรามีสติตื่นรู้แล้ว เราก็มีสิทธิ์จะหลุดพ้นได้ ทางออกมีอยู่แล้ว อยู่แค่เราจะเลือกทางไหนที่มีความสุขอย่างแท้จริงเท่านั้น เหมือนกินยาขมๆ กินครั้งเดียวแต่หาย กับยาหวานๆกินนานๆแต่หายช้า หรืออาจได้โรคอื่นแทน หาเวลาไปเจริญสติบ้างจะดี เราจะได้ข้อคิดดีๆ จากผู้ครองศีล หลีกหนีสภาพที่อึดอัดร้อนรนนั้น จงจำไว้ว่าอนาคตเรายังต้องมีลูก คิดถึงอนาคตเขาไว้
เราต้องถามตัวเองก่อนว่า ควรมีอะไร หรือหลักฐานอะไรที่จะทำให้เราเชื่อมั่นได้ 100% ว่าเขาสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้วจริง บอกตัวเองว่าถ้าเห็นเช่นนั้นแล้วฉันถึงจะเชื่อ เพราะตอนนี้คำพูดจากเขา เราไม่สามารถเชื่อใจได้อีกแล้ว
เมื่อทราบว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันจริงๆก็ให้เมตตาเด็ก เราจะใจเย็นลง และใช้ชีวิตของเราไป ส่วนภรรยาเก่านั้น เขาจะทุกข์จะมีโทสะ จิตใจเขาก็ร้อนรนของเขาเองเราห้ามเขาไม่ได้ เพราะเราเองก็ไม่ได้เจตนา
ถ้าแฟนไม่สามารถให้ความชัดเจนแก่เราได้ ต้องยอมรับไปว่ามันจะทุกข์แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนวันที่เรามีลูก มีสินทรัพย์ร่วมกันจะยิ่งลำบาก
ที่กล่าวมาไม่ใช่ให้ทุกข์กว่าเดิม แต่ให้ดึงเอาความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง ศักดิ์ศรี สติ ความรู้ สัญชาติญาณ และ กำลังใจ ออกมาใช้
กล้าหาญที่จะยอมรับในจุดจบที่อาจจะไม่สวยงามนัก
เข้มแข็งที่จะเดินต่อไปบนทางที่เราตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง
มีศักดิ์ศรีเชื่อมั่นในตัวเองว่าเรามีคุณค่า อย่าให้ใครมาตัดสินชีวิตเรา
ใช้สติพิจารณาเนื้อหา และข้อมูลที่ได้รับมาจากคู่กรณีทุกคน รวมถึงใช้ในการตัดสินใจ
ใช้ความรู้ ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ประสบการณ์ที่ได้ยินมาจากคนอื่นๆ ดูว่าแต่ละคนที่คล้ายๆเราเขาทำอย่างไรอันไหนดีไม่ดี และใช้ความรู้ที่สั่งสมมา ไปประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวเอง (ในกรณีจำเป็นต้องย้ายงาน) ยอมรับให้ได้ว่าเรามีความสามารถพอที่จะหาทางเอาตัวรอดได้
สัญชาติญาณ เชื่อมัน ผู้หญิงมีสัญชาตญาณนี้มาทุกคน เมื่อใจบอกเช่นไร ก็หาเหตุผลมาแล้วตัดมันออกไปถ้ามันทำให้เราทุกข์
เราต้องมีกำลังใจเสมอไม่ว่าใครจะมาว่าเรายังไง เพราะเราไม่ได้ตั้งใจ อย่าคิดว่าเราไม่มีค่า เรามีค่าเสมอคนผิดไม่ใช่เรา
การจะผิดไม่ผิด ขึ้นอยู่กับเจตนา เราเจตนาทำให้พวกเขาเดือดร้อนมั้ย เมื่อรู้ว่าผิดพลาดเราได้แก้ไขมันมั้ย ถึงแม้เราจะคิดว่าเป็นกรรมเก่า แต่เมื่อเรามีสติตื่นรู้แล้ว เราก็มีสิทธิ์จะหลุดพ้นได้ ทางออกมีอยู่แล้ว อยู่แค่เราจะเลือกทางไหนที่มีความสุขอย่างแท้จริงเท่านั้น เหมือนกินยาขมๆ กินครั้งเดียวแต่หาย กับยาหวานๆกินนานๆแต่หายช้า หรืออาจได้โรคอื่นแทน หาเวลาไปเจริญสติบ้างจะดี เราจะได้ข้อคิดดีๆ จากผู้ครองศีล หลีกหนีสภาพที่อึดอัดร้อนรนนั้น จงจำไว้ว่าอนาคตเรายังต้องมีลูก คิดถึงอนาคตเขาไว้
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
8 กันยายน พ.ศ. 2557 08:44:57
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร