ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

การปฏิบัติ
รายละเอียด
กระผมอยู่ที่จังหวัดเลยขอรับ กระผมเป็นคนธรรมมะธรรมโมพอมีปัญญาหาทางออกใด้เองหลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องกรรม เรื่องความอดทนต่อบุคคลและสิ่งรอบข้าง ใช้กรรมฐานช่วยบ้าง แต่ปัญญาหาของกระผมตอนนี้คือพ่อกับแม่ของตัวเอง กระผมรู้ว่ากระผมใช้กรรมตัวนี้อยู่ พ่อจะเป็นคนใจบาปกิเลสหนาปัญญาหยาบไม่สนเรื่องเวรกรรม ส่วนแม่มีอาการทางสมองนิดๆ ทำผีเจ้าเข้าทรง ใหว้ศาลเจ้าที่ต่าง และมีอิทธิพลกับคนในบ้าน คือแม่เขาชอบจัดการบริหารอะไรทุกอย่างในครอบครับไม่วาจะเรืองเงินเรื่องงานทำแล้วก็มานอนบ่นว่าปวดหัว กระผมอายุ36ปีแล้วยังไม่แต่งงานเพราะบวชนานหลายปีเป็นลูกชายคนเดียว ปัญหาคือคูณแม่จะมองกระผมว่าเป็นโรคประสาท ไม่ค่อยสนใจเรื่องอนาคตตัวกระผมเท่าใหร่ พูดดูถูกลูกตัวเอง หาว่าประสาทไม่ดี บ้า ถึงขั้นหลอกกระผมไปขังไว้ในโรงพยาบาลจิตเวชอยู่1เดือน กระผมรู้สึกท้ออยู่บ้าง เรืองอนาคตครอบครัวของผมก็ไม่ให้กระผมมี เงินก็ไม่ใด้ใช้ เพื่อนก็ไม่ให้มี ต้องอยู่ในโอวาทตลอด ชาวบ้านก็เชื่อแม่กระผมเขาก็หาว่ากระผมเป็นบ้าแทบทั้งบ้าน ทุกวันนี้กระผมอยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คิดซะว่าคงเป็นเวรกรรมที่ใด้ทำกับคุณพ่อคุณแม่ใว้ในชาติปางก่อน ชาตินี้ต้องมารับใช้ท่าน ทุกวันนี้กระผมก็กราบท่านทุกวันให้มันเบาบางลงซักที และกระผมก็ขาดกัลยาณมิตรที่ดี มีแต่นักเลงสุรา บางทีอยู่คนเดียวมานั่งคิดว่าเราบ้าจริงอย่างเขาว่าหรือเปล่า ทำไมชาวบ้านเห็นเราถือศีลและห่มขาววันพระแล้วมันบ้าอะไรตรงใหน มองเหมือนไม่เคยเห็นคน ขอคำชี้แนะว่าต้องตัดต้องทำอะไรเพิ่มขอรับ
ความต้องการ
ขอคำชี้แนะ
ชื่อผู้ถาม
ธงชัย งามสพรั่ง
วันที่เขียน
14 กันยายน พ.ศ. 2557 22:23:35
จำนวนคนเข้าดู
1821

คำตอบ

คำตอบที่ 1
ถ้าเราทำดี ไม่ผิดศีลธรรมอะไรแล้ว จะไปหวั่นไหวอะไรกับคำพูดของคน
เราก็ทำปกติของเราไป

อย่าคิดแต่ว่าเป็นเวรกรรม ให้คิดบ้างว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขและแก้ไขได้ ถ้าพยายาม
เราต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ ที่รับผิดชอบครอบครัว รู้จักคิดอ่าน ทำงานหารายได้เข้าครอบครัวได้
แล้วเขาจะมั่นใจเรา แล้วเขาจะเชื่อสิ่งที่เราพูด

ไม่จำเป็น เรารู้เราเห็นอะไร ก็ไม่ต้องไปบอกใคร
เพราะคนบางคน เราบอกไป เขาก็มองว่า เราคือตัวตลกเปล่า ๆ
อย่าคิดว่า ชีวิตคือการใช้เวรใช้กรรม จงคิดใหม่ว่า ชีวิตคือผลบุญที่เราได้เกิดมาเป็นคน เพื่อให้มาสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามแก่ตัวเอง แก่สังคม แก่ชาวโลก

ฝึกฟังและฝึกปฏิบัติตามนี้ ทุก ๆ วัน  วันละ 1-2 ชม. ต่อเนื่องไปตลอด 3 ปี
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143
ชื่อผู้ตอบ
สายด่วนชาวพุทธ
วันที่เขียน
19 กันยายน พ.ศ. 2557 21:20:50
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร