ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)
น้องติดพนันบอล แม่ต้องตามไปเคลียร์ สุดท้ายก็เป็นผมที่จ่าย
รายละเอียด
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากแม่ แม่บอกว่าขอเงิน
ผมก็เลยถามแม่ว่า จะเอาไปทำอะไรครับ
แม่ตอบว่า จะเอาไปจ่ายค่าดอก ของทองที่เอาไปจำนำไว้
ผมเลยถามแม่ว่า งั้นปล่อยไปก่อนไหม เดี๋ยวโบนัสออกจะซื้อให้ใหม่
ถามไปถามมา คุยไปคุยมาสรุปคือ แม่เอาทองอีกเส้น ไปจำนำครับ เพื่อเอาไปจ่ายค่าพนันบอลของน้องชาย
ผมถึงกับอึ้งเลยครับ มันไม่ใช่ครั้งแรกครับ ติดพนันบอลมาหลายรอบแล้ว ทุกครั้งแม่ต้องเอาทองไปจำนำ แล้วพอโบนัสออกผมต้องไปถ่ายทองที่แม่เอาไปจำนำตลอด ครั้งนี้ผมจะตัดใจไม่ให้ ผมจะผิดมากไหมครับ
เพราะ น้องชายก็ทำงานอยู่ บ้านก็อยู่ฟรี กินก็กินฟรี เพราะทุกวันนี้อยู่กับพ่อแม่ ภาระของน้องชายคือผ่อนรถยนที่ตัวเองอยากได้อย่างเดียว
แต่ผม อยู่กรุงเทพ จ่ายค่าห้องเอง เลี้ยงตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ความต้องการ
ผมทำผิดมากไหมครับ ผมเป็นคนอกตัญญูหรือเปล่าครับ
ชื่อผู้ถาม
วิสุทธิ์
วันที่เขียน
15 กันยายน พ.ศ. 2557 17:53:07
จำนวนคนเข้าดู
1627
คำตอบ
คำตอบที่ 1
เราไม่ผิด คนที่ผิดเขาไม่เคยคิดจะปรับปรุงแก้ไขเพื่อแม่ เพื่อตัวเอง หรือเพื่อคนที่รักเขาเลย เขาไม่มีสติเหลือแล้ว ต้องมีใครสักคนต้องเรียกสติเขากลับคืนมา ทุกวันนี้แม่ต้องเสียใจมากแค่ไหนเราเองกลับเป็นคนที่มองเห็นและเจ็บแทน ส่วนน้องเราเคยพูดคุยกับน้องบ้างมั้ย แบบไม่ต้องไปตำหนิเค้า พูดกับเค้าแบบลูกผู้ชาย มันแก้ได้ยาก คนที่ชอบบอลก็ชอบเข้าเส้นจริงๆ และยิ่งชอบพนันด้วย สุดท้ายคงจบไม่ดีเท่าไหรนัก หาคนที่เค้านับถือหรือไว้ใจลองพูดกับเค้าให้เค้าเลิก พอจะมีมั้ย นิสัยคนมันเปลี่ยนได้ยาก แม่ก็มีแต่ห่วงลูกไม่ช่วยก็กลัวลูกจะเป็นอะไร ต้องให้กำลังใจแม่มากๆ สงสารท่าน เมื่อเปลี่ยนน้องไม่ได้ ก็หันมาใส่ใจความรู้สึกของแม่ พูดคุยกับท่านให้เข้าใจ เราช่วยเค้าไม่ได้ตลอดชีวิตหรอกนะ วันนึงเงินก็จะหมดไป ไม่เหลืออะไรเลย หรือแม้วันนึงเรากับแม่ไม่อยู่แล้ว เค้าจะเป็นยังไง มันเป็นกรรมที่เกิดจากการกระทำของเขาเอง เราต้องหมั่นเติมความสุขให้แม่ที่สุดนะ อย่างน้อยให้ท่านรู้สึกดีใจว่ายังมีลูกอีกคนนึงที่ฝากผีฝากไข้ได้ ถึงแม้เราไม่ได้ช่วยเรื่องเงินที่จะเอาไปให้น้อง ให้โฟกัสที่แม่แล้วกัน พาแม่ไปสงบจิตใจ พาท่านไปวัดบ้างก็ดี ไปฟังพระท่านให้แง่คิดดีๆ เผื่อบางที จะสบายใจขึ้นได้
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
19 กันยายน พ.ศ. 2557 11:19:21
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร