ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

เพื่อนผมจะพาแฟนไปทำแท้งผมรู้ผมจะบาปไหมครับ??
รายละเอียด
ึคือผมกับเพื่อนในห้องสนิทกันมากแล้วเพื่อนมาปรึกษาว่าแฟนท้องมันจะทำยังไง ผมเคยได้ยินว่ามีบริการปรึกษาท้องไม่พร้อม ผมเลยแนะนำให้คุยกับพี่ที่ปรึกษาโดยใช้ชื่อของผมในการคุย ผมไม่รุ้ว่าเค้าคุยอะไรกันบ้างแต่สุดท้ายลงเอยที่จะนัดให้ไปเอาเด็กออก แต่ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นผมพยายามห้ามแล้วแต่ว่า เพื่อนผมบอกว่าถ้าไม่ทำก้อเรียนไม่ได้ผมไม่รุ้จะทำยังไงผมเลยให้เค้าเลือกทางของเค้าเอง เค้าก้อเลือกเอาออก ผมห้ามอะไรไม่ได้เลยแต่ผมเสียใจมากผมไม่อยากให้มันทำแบบนี้ ผมจะผิดไหมครับ
ความต้องการ
ผมจะบาปไหมครับที่ให้เพื่อนไปคุยกับ คนที่ให้คำปรึกษาปัญหาท้องไม่พร้อมโดยใช้เฟสบุ๊คของผมเพราะว่าสุดท้ายเค้าเลือิกจะไปทำแท้งกัน ทั้งๆที่ผมก้อรู้ก็เห็นแต่ผมห้ามเค้าไม่ได้เลย
ชื่อผู้ถาม
นพดล
วันที่เขียน
10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 23:46:53
จำนวนคนเข้าดู
1403

คำตอบ

คำตอบที่ 1
เรื่องนี้ใหญ่มาก ต้องเตือนและห้ามกันให้ได้ อย่าหน้ามืดไปทำลายเด็กเป็นอันขาด เด็กคนนี้ เขาเกิดมาแล้ว เขาอาจเป็นบุคคลสำคัญที่สร้างสรรค์อะไรที่ยิ่งใหญ่ให้โลกก็ได้  จะพากันไปทำลายเขาทำไม  ลองเทียบดู ถ้าพ่อแม่ของเพื่อนสองคนนั้นคิดอย่างนั้นบ้าง  สองคนนั้นก็คงไม่ได้เติบโตมาจนได้เสพสุขสนุกกันอย่างที่แล้ว ๆ มา

1. ควรคุยกับเพื่อนอย่างจริงจัง  ชวนและพาเพื่อนไปอยู่วัด ถือศีล ปฏิบัติธรรมสัก 3-7 วัน เพื่อให้จิตสงบ มั่นคง และมีพลัง

2. เราต้องห้ามเพื่อนให้ได้ บอกเพื่อนให้เห็นแสงสว่างให้ได้  การทำลายชีวิตลูกตัวเองนั้น  หยาบช้ามาก ตกต่ำมาก  และเป็นบาปกันถ้วนหน้า ทั้งคนทำ ทั้งคนบอกเส้นทางไปทำ

3. อย่าให้คำว่า อาย  กลัวคนนินทา กลัวขายหน้า ต้องทำให้ชีวิตต้องไปพลาดทำบาปกรรมหนักแบบนี้  บอกเพื่อนให้กล้าสู้กับความจริง ยอมรับความจริงว่า ชายหญิง นอนด้วยกัน อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ สุขภาพดี เชื้อดี ไข่ดี ทั้งสองคน  มันก็ต้องมีท้องได้เป็นธรรมดา แต่มีแล้ว ต้องรับผิดชอบ  ไม่ใช่จะไปเอาเขาออกแบบง่าย ๆ  เมื่อทำแล้ว ก็ต้องกล้ารับ

4. ชีวิตยังยาวไกล หนทางชีวิตยังยาวไกล คิดหรือว่า เอาเด็กออกแล้ว ชีวิตสองคนนั้นจะก้าวหน้า ผลของบาปนั้นจะติดตัวไปนานแสนนาน และมันจะให้ผลรุนแรงสาสมกับที่ได้ทำเหตุแห่งบาปไว้เสมอ   เตือนเพื่อนให้ได้ ทำผิดอะไรอย่างอื่น พอรับได้ แต่ไปทำผิดด้วยการฆ่าชีวิตคนอื่น (โดยเฉพาะลูกตัวเอง) แล้ว จะเหลือความเป็นมนุษย์ไหม?

5. ที่บอกว่า ไม่พร้อมนั้น ไม่มีหรอก เป็นข้ออ้างที่มักง่ายและฟังไม่ขึ้นเลย  ส่วนมาก อายมากกว่า ไม่กล้ายอมรับความจริง เมื่อรู้ว่า ท้อง 

ทั้งสองคน ควรบอกพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย และแต่งงานอยู่กินกันให้เรียบร้อยแล้วเสีย เรื่องการเรียน drop ไว้ก่อนก็ได้ จบช้าไป 1-2 ปี ไม่เสียหายอะไรมากหรอก  ก็รักกันมิใช่หรือ ก็ต้องดูแลกันได้สิ   ไม่ควรรักเพียงสนุกเฉย ๆ

7. ตัวเราเป็นคนหาข้อมูลชี้ช่องทางเรื่องนี้ ก็ชื่อว่า ได้ร่วมทำบาปเช่นกัน แม้จะไม่หนักเท่ากับสองคนนั้น (+คนที่เอาออก)

ดูตรงนี้ประกอบ
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=116

และตรงนี้
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=190

และตรงนี้
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=206

และตรงนี้
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews5&newsid=309

และตรงนี้
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews5&newsid=286

แนะนำพากันไปวัดนี้ ไปบ่อย ๆ ปีละ 2-3 ครั้ง
https://www.watbhaddanta.com/
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 00:48:50
คำตอบที่ 2
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 00:50:27
ทั้งหมด 2 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร