คุยกับเขาจริง ๆ จัง ๆ ว่า ถ้ายังใช้ชีวิตแบบนี้ มันจะลำบากนาน
เขาจะปรับตัวได้ไหม เพื่ออนาคตของครอบครัว ของลูก
แทนที่จะเสียเงินไปกับเหล้า ก็เก็บเงินนั้นไว้ให้ลูกดีกว่า อย่างน้อย ๆ เก็บอาทิตย์ละ 2000 พัน 3000 พัน สิ้นเดือนก็มีเงินเพิ่มไม่น้อย
คนจำนวนมากในประเทศนี้ แม้จะรู้ตัวเองว่า แทบไม่มีกิน แต่ก็ยังหาเงินเพื่อเอาไปมอบให้เจ้าของโรงเหล้าโรงเบียร์อยู่ไม่หยุด เขาไม่รู้ว่า เจ้าของโรงเหล้าโรงเบียร์ในประเทศนี้นั้นรวยล้นเกินพอแล้ว มีเป็นหมื่นเป็นแสนล้านแล้ว เราไม่ต้องหาเงินไปมอบให้เขาอีกแล้ว อย่าไปสงสารเขานักเลย หาเงินแล้วเอามาไว้ใช้จ่ายในครอบครัวดีกว่า
กินเหล้าทำให้สนุก คึกคัก ห้าวหาญ เสียงดัง ไม่เกรงกลัวใคร ไม่อายใคร เรียกว่า ขาดสติ
พอสร่างเมา ข้าวจะกินแทบไม่มี ลนลานหงุดหงิน เสียงดังกับคนในครอบครัว เงินก็ไม่มีเหลือ
ตัวคุณเอง แนะนำว่าให้สวดมนต์ เจริญภาวนา แผ่เมตตาทุกวัน ๆ ก่อนนอน
ไปวัดบ่อย ๆ ไปกราบพระประธานในโบสถ์ นั่งหลับตาทำใจให้สงบนิ่งสักพักใหญ่ ๆ แล้วพิจารณาว่า.... ชีวิตคนเราไม่แน่นอน มีเกิดแก่เจ็บตาย มีพบมีพลัดพราก หาความเที่ยงแท้ถาวรไม่ได้
เรากับเขา เมื่ออยู่ด้วยกันแรก ๆ ก็รัก เมื่อนานวันก็คลายรัก และเริ่มเฉย ๆ บางครั้งอาจชิงชัง เบื่อหน่าย อยากหนีจากไปให้พ้น อยากเลิกรา .....นี่คือความจริงหนึ่งของชีวิตคู่
ชวนเขาไปด้วย ทำแบบนี้ไปสัก 1 ปี น่าจะดีขึ้น ถ้าเขาไม่ไปกินเหล้าแล้วเกิดอุบัติเหตุร่างกายพิกลพิการเสียก่อน
1 ทำไง สามีจะเห็นใจเรา รักครอบครัว ช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันเก็บรักษาทรัพย์สินเงินทอง มันอยู่ที่จิตสำนึกเขา เขามองโลกมองชีวิตกว้างไกลพอไหม หรือว่า ยังสนใจความสนุกเฉพาะหน้าไปวัน ๆ อนาคตของคนที่ทำตัวแบบนี้ไม่มีอย่างอื่นนอกจากลำบากยากจน และคนที่อยู่ด้วยก็ลำบากเช่นกัน หลายคนกว่าจะสำนึกได้ ก็กินเหล้าจนเกิดอุบัติเหตุขาหักแขนหักไปแล้ว ซึ่งน่าเสียดายมาก
อย่าโทษเวรกรรมอะไร ลองดูไปก่อน
2 การโกหกแบบที่คุณว่ามา ไม่ได้บาปมากเลย เพราะเราไม่ได้ทำให้เขาเสียหาย
เพื่อให้ใจเราเข้มแข็ง สงบเย็นบ้าง ให้ฝึกหัดเจริญภาวนาตามนี้ทุกวัน ฟังตรงนี้
http://www.buddhisthotline.com/index.php?page=frmnews6&newsid=143