พระคาถาป้องกันฆ่าตัวตาย
กิจโฉ มนุสสะปะฏิลาโภ กิจฉัง มัจจานะ ชีวิตัง
กิจฉัง สัทธัมมัสสะวะนัง กิจโฉ พุทธานะมุปปาโท
คาถาป้องกันฆ่าตัวตายข้างบนนี้ เป็นพระคาถาที่พุทธเจ้าประทานไว้ให้ทุกคนเมื่อ 2500 กว่าปีมาแล้ว วิธีใช้คาถานี้ให้ได้ผลคือต้องลงมือฝึกหัด ต้องซ้อม ต้องฝึกปฏิบัติให้เป็นปกติในชีวิตประจำวัน เหมือนการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอเราต้องซ้อมต้องฝึก เมื่อต้องเข้าแข่งขันกีฬาหรือต้องใช้พละกำลังในภารกิจบางอย่าง ร่างกายเราก็พร้อมทันที เช่นกัน คาถาป้องกันฆ่าตัวตายนี้ เราต้องฝึกให้พร้อมอยู่กับตัวเราทุก ๆ วัน
กรรมวิธีการฝึกซ้อมเพื่อให้พระคาถาอยู่กับตัวเรา
1. ท่องคาถานี้ให้ได้อย่างคล่องแคล่ว เปล่งเสียงออกมาได้ทันทีเลย ไม่ผิดพลาด
2. ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีทุกวันก่อนออกจากที่พักดังนี้
2.1 ให้นั่งในท่าที่สบาย สงบนิ่ง สำรวม ตั้งสติให้แน่วแน่มั่นคง ไม่วอกแวก สูดลมหายใจเข้าออกยาว ๆ 5-6 ครั้ง แล้วปล่อยเป็นธรรมชาติหายใจตามปกติ
2.2 กำหนดลมหายใจ เอาความรู้สึกมาจับที่ลมหายใจ หายใจเข้ายาว ก็ตามรู้ว่าหายใจเข้า "ยาว" หายใจออกยาว ก็ตามรู้ว่าหายใจออก "ยาว"หายใจเข้าสั้น ก็ตามรู้ว่าหายใจเข้า "สั้น" หายใจออกสั้น ก็ตามรู้ว่าหายใจออก "สั้น" ไม่สนใจเรื่องอดีต ไม่สนใจเรื่องอนาคต จดจ่ออยู่กับลมหายใจปัจจุบันเท่านั้น ไม่บังคับลม แต่หายใจไปตามธรรมชาติ
3. เมื่อจิตนิ่งได้ที่แล้ว ให้ละจากการจดจ่อลมหายใจ ให้พูดเปล่งออกเสียง (บริกรรม) คาถาตามข้างบนนี้ให้ชัดเจน มั่นคง ขณะเปล่งเสียงให้จดจ่อแต่ละคำไม่วอกแวก ไม่เร่งไม่รีบเพื่อให้จบ ๆ ไป ไม่ช้าเนิบนาบ ให้เปล่งออกเสียงตามธรรมชาติธรรมดา ๆ จังหวะพอเหมาะ ไม่เบาจนไม่ได้ยิน ไม่แผดเสียงดัง ถ้าเผลอไปคิดเรื่องอื่นขณะกำลังเปล่งเสียง ให้เริ่มต้นเปล่งทั้งคาถาใหม่ ทุกครั้งที่ทำการเปล่งเสียง ให้เปล่งเพียง 3 รอบเท่านั้น
โดยสรุป กิจกรรมนี้ต้องฝึกให้ต่อเนื่องทุกวันและใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น
หากวันใดเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายมาก ท้อแท้ ผิดหวัง เศร้า เหงา ว้าเหว่ หรือไม่อยากรับรู้เรื่องราวใด ๆ ไม่ต้องการรับรู้อะไร ให้ทำตามข้อ 2-3 ให้เข้มขึ้น คือใช้เวลาให้มากขึ้นกว่าเดิม เช่น เปล่งคาถานี้ 8 รอบ 9 รอบ 12 รอบ หรือ 108 รอบ
หากเปล่งเสียงไป ๆ จำไม่ได้ว่า ได้เปล่งไปกี่รอบแล้ว แสดงว่าสติยังไม่มีกำลังพอ สมาธิยังไม่มั่นคงพอ ให้กลับไปทำตามคำแนะนำข้อ 2.2 ใหม่ ทำให้ได้แล้วมาเริ่มต้นเปล่งใหม่ นับ 1 ใหม่เลย
ความหมายของคาถาข้างบนนี้ มีดังนี้
กิจโฉ มนุสสะปะฏิลาโภ การได้เกิดมามีร่างกายเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่เกิดได้ยาก
กิจฉัง มัจจานะ ชีวิตัง การมีชีวิตอยู่รอดมาได้ของสัตว์ทั้งหลาย (รวมมนุษย์และเดรัจฉาน) เป็นสิ่งยาก
กิจฉัง สัทธัมมัสสะวะนัง การได้ฟังพระสัทธรรม(ของพระพุทธเจ้า) เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยาก
กิจโฉ พุทธานะมุปปาโท การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นสิ่งที่มีได้ยาก
ทำไมพระพุทธศาสนา จึงถือว่าการได้เกิดมามีร่างกายเป็นมนุษย์นี้เป็นสิ่งที่เกิดได้ยาก เพราะพระพุทธศาสนาถือว่า ชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งมีค่าสูงสุด สามารถพัฒนาได้และเป็นหน้าที่ของทุกคนต้องพัฒนาเพื่อให้ชีวิตประเสริฐที่สุด ชีวิตนี้เป็นสมบัติธรรมชาติที่ใครไม่มีสิทธิทำลายชีวิตใคร แม้กระทั่งชีวิตตนเองก็ไม่มีสิทธิฆ่าหรือทำลายตัวเอง การจะได้มีโอกาสเกิดมามีร่างกายเป็นมนุษย์นั้นยากอย่างไร ลองพิจารณาดูจากพระพุทธดำรัสดังนี้
ปฐมฉิคคฬสูตร ว่าด้วยความเป็นมนุษย์แสนยาก (1)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษโยนแอกซึ่งมีช่อง
เดียวลงไปในมหาสมุทร เต่าตาบอดมีอยู่ในมหาสมุทรนั้นต่อล่วงร้อยปี ๆ
มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่ง ๆ เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เต่าตาบอดนั้น ต่อล่วงร้อยปี ๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่ง ๆ จะสอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้น ได้บ้างหรือหนอ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าล่วงกาลนานไปบางครั้งบางคราวเต่าจะสอดคอให้เข้าไปในแอกนั้นได้บ้าง
พระผู้มีพระภาคเจ้า " ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เต่าตาบอดต่อล่วงร้อยปี ๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่ง ๆ สอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นยังจะเร็วกว่า เราย่อมกล่าวความเป็นมนุษย์เพราะคนพาลผู้ไปสู่วินิบาตแล้วคราวเดียวก็หามิได้ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าในวินิบาตนี้ ไม่มีการประพฤติธรรม การประพฤติชอบ การกระทำกุศล การกระทำบุญ มีแต่การเคี้ยวกินกันและกันการเคี้ยวกินผู้มีกำลังน้อยกว่า ย่อมเป็นไปในวินิบาตนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะไม่เห็นอริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔ เป็นไฉน คือ ทุกขอริยสัจ ฯลฯ ทุกนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา"
ทุติยฉิคคฬสูตร ว่าด้วยการได้ความเป็นมนุษย์แสนยาก (2)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาปฐพีนี้มีน้ำเป็นอันเดียวกัน บุรุษโยนแอกซึ่งมีช่องเดียวลงไปในมหาปฐพีนั้น ลมทิศบูรพาพัดเอาแอกนั้นไปทางทิศประจิม ลมทิศประจิมพัดเอาไปทางทิศบูรพา ลมทิศอุดรพัดเอาไปทางทิศทักษิณ ลมทิศทักษิณพัดเอาไปทางทิศอุดร เต่าตาบอดมีอยู่ในมหาปฐพีนั้น ต่อล่วงร้อยปี ๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่ง ๆ เธอทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เต่าตาบอดนั้น ต่อล่วงร้อยปี ๆ มันจะโผล่ขึ้น คราวหนึ่ง ๆ จะสอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้น ได้บ้างหรือหนอ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้อที่เต่าตาบอดต่อล่วง ร้อยปี ๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่ง ๆ จะสอดคอเข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นเป็นของยาก
พระผู้มีพระภาคเจ้า " ฉันนั้น ภิกษุทั้งหลาย การได้ความเป็นมนุษย์เป็นของยาก พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติในโลกเป็นของยาก ธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองในโลก ก็เป็นของยาก ความเป็นมนุษย์นี้ เขาได้แล้ว พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติแล้วในโลก และธรรมวินัยที่ตถาคตประะกาศแล้ว ก็รุ่งเรืองอยู่ในโลก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา"
ศึกษาเพิ่มเติม พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ 31 พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่มที่ 5 ภาคที่ 2
พระคาถาข้างบนนี้ จะป้องกันฆ่าตัวตายได้จริงหรือ ?
ตอบว่า ถ้าฝึกหัดทำตามที่แนะนำมาอย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ ป้องกันได้แน่นอน อย่าลืมว่านักกีฬาต้องซ้อมต้องฝึกหัดต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมตลอดเวลา เช่นกัน คาถาป้องกันฆ่าตัวตาย เราก็ต้องซ้อมต้องฝึกหัดตลอด เมื่อลงสนามจริง ถ้าร่างกายไม่พร้อมไม่ซ้อม โอกาสจะชนะคู่ต่อสู้ย่อมยาก ดังนั้น ต้องฝึกหัดให้อยู่กับตัวเป็นปกติ เหมือนนักกีฬาที่สภาพร่างกายพร้อมจะลงแข่งกันกีฬาได้ทุกเมื่อ
คำแนะนำข้างบนนี้เป็นวิธีฝึกปฏิบัติที่งมงาย เชื่อถือไม่ได้กระมัง ?
หามิได้เลย วิธีปฏิบัติตามที่แนะนำบ้างบนนี้ เป็นวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ใช้ได้ สามารถป้องกันการฆ่าตัวตายได้จริง ลองเทียบเคียงกับธรรมอุบายใน 3 กรณีศึกษาดังต่อไปนี้
1. พระพุทธองค์รับปากว่า จะยกนางอัปสรที่สวยงามมาก (กว่านางงามจักรวาล+นางงามโลกใด ๆ ในโลกนี้) จำนวน 500 นางให้พระนันทะ หากพระนันทะตั้งใจฝึกปฏิบัติธรรมวินัย
(ดูเพิ่มเติม)
2. หญิงบางคน ตักน้ำล้างเท้าตนเอง ก็เข้าใจสัจธรรมได้
(ดูเพิ่มเติม)
3. บางคน พระพุทธองค์ให้นั่งลูบท่อนผ้าขาวผืนเล็ก ๆ ให้ลูบไปลูบมาทั้งวัน พร้อมกับกำหนดว่า "ระโชหะระณัง ระโชหะระณัง-ผ้าเช็ดธุลี ๆ " ก็เข้าใจสัจธรรมได้
(ดูเพิ่มเติม)
คาถาป้องกันฆ่าตัวตายนี้ อาจจะไม่สามารถทำให้ผู้ฝึกปฏิบัติเข้าใจสัจธรรมจนหมดสิ้นกิเลสได้ในทันทีทันใดดัง 3 กรณีศึกษาตัวอย่างข้างบนนี้ แต่สามารถน้อมนำผู้ฝึกปฏิบัติให้พ้นจากภัยคือการฆ่าตัวตายได้อย่างแน่นอน