ปรึกษาปัญหาชีวิต (สำหรับเจ้าของกระทู้)

การทำงาน
รายละเอียด
กราบนมัสการค่ะพระอาจารย์ ปัจจุบันดิฉันทำงานอยู่ในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ตอนเรียนก็เรียนทางด้านรัฐศาสตร์เพราะตั้งใจว่าจะสอบเข้าราชการให้ได้เหมือนพ่อและแม่ และคิดว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบแล้ว แต่พอทำงานได้สักระยะหนึ่ง ได้เข้าใจระบบการทำงานก็เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายกับระบบราชการ การทำงานแบบเล่นเส้นสายมีพรรคพวก โอกาสที่ดิฉันจะเติบโตยากเหลือเกิน การปฎิบัติที่ไม่เท่าเทียมกัน รู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่ และปัญหาอีกมากมาย ตอนนี้ดิฉันจึงอยากที่จะลาออกจากงานราชการที่ทำอยู่มาก สิ่งที่คิดว่าใช่มันกับไม่ใช่ไปเสียหมด รู้สึกสับสนมากคะพระอาจารย์ ทั้งญาติพี่น้อง รวมถึงพ่อแม่ก็บอกดิฉันว่าอย่าลาออกเพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาง่ายๆ ตอนนี้เหมือนตัวเองมาผิดทางตั้งแต่เรียน เคว้งไปหมดคะพระอาจารย์
ความต้องการ
จึงอยากจะเรียนปรึกษากับพระอาจารย์ว่าดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะกับปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ รู้สึกเครียดมากคะ
ชื่อผู้ถาม
คนชลบุรี
วันที่เขียน
7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 14:35:24
จำนวนคนเข้าดู
1219

คำตอบ

คำตอบที่ 1
...ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหนนะ ชอบค่าตอบแทนปานกลางสวัสดิการถึงพ่อแม่ลูกเต้า ยามแก่ไม่เศร้ามีสวัสดิการต่อ หรือ ชอบผลตอบแทนรายเดือนสูง แต่ต้องเก็บนะ ต้องรู้จักเก็บเงิน ไม่งั้นวันๆที่ผ่านๆไป จนแก่จะไม่ได้อะไรเลย เพราะบริษัทไม่มีเกษียรให้ ส่วนเรื่องพรรคพวก การเมือง อิจฉาริษยา แข่งขันนินทา บริษัทเอกชนมีเหมือนกัน เผลอๆมากกว่า เพราะอิสระมาก แถมถ้าไม่เก่งจริง โตยากแต่ต้องยอมรับว่า เหนื่อยกว่าราชการหลายเท่านะ เผลอๆได้ที่ไม่ดีก็ต้องเปลี่ยนงานไปเรื่อย ถ้าเป็นไปได้ ถ้างานมันน่าเบื่อ หาอะไรทำเสริมมั้ย นอกงานนนั้น ไม่ว่าคนทำงานราชการ หรือ ทำเอกชน ล้วนก็มีวิธี ผ่อนคลายในสไตล์ของตัวเองทั้งนนั้นนะ ถ้าวันไหนมันไม่คอขาดบาดตายจริงๆ หรือไม่ได้ระเบิดอารมณืกับใครแบบไม่ไหวแล้วน่ะ พอจะทนได้มั้ย แต่ถ้าจะไม่ไหวจริงๆ ต้องสู้นะ เพราะโลกข้างนอก ไม่ได่ราบรื่นอย่างที่คิด แต่ถ้าเราชอบ มันอาจจะท้าทายดีก็ได้ .. ชีวิตก็เหมือนการนั่งสมาธิ เรานั่งจนเหน็บกิน ถ้าไม่เปลี่ยนอิริยาถก็ทรมาน ใช่มั้ย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปเดินเล่นแล้วมานั่งต่อ หรือจะเลิกนั่งไปเลย ก็เท่านั้นเอง มั่นใจและแน่วแน่ เลือก และก็เติมแรงันดาลใจ ก้าวไปในสิ่งที่เลือก
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 299
วันที่เขียน
7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 19:48:41
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1
อ่านป้ายฉลากยา 10,000 รอบ แต่ไม่กินยา มันก็คงรักษาโรคอะไรไม่ได้
เช่นกัน แม้ว่าจะอ่านหนังสือ 10,000 เล่ม ฟังเทศน์ 10,000 เรื่อง ปรึกษาผู้รู้ 10,000 คน ประโยชน์ก็มีเพียงน้อยนิด
หากเราไม่ลงมือทำ ไม่ลงมือปฏิบัติ ไม่พยายามทำ การมัวแต่คิดอยากให้เป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเฉยๆ จะมีผลสำเร็จอะไร