ข่าวความเป็นไปแห่งชีวิต

แม่อดีตพริตตี้มอเตอร์โชว์ป่วยทางจิตหลังไปมีลูกกับหมอทำเสน่ห์ อุ้มลูกวัย 5 ขวบโดดน้ำฆ่าตัวตาย ญาติเผยก่อนตายมาบอกว่า มีคนชวนให้โดดตึก ปาฏิหาริย์ลูกชายรอดชีวิตหวุดหวิด เจ้าหน้าที่งมหาร่างแม่กว่า 6 ชม. ไ

 

วันนี้ ( 22 พ.ย.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.ไพฑูรย์ อ่อนสะอาด พนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักงานรักษาสิ่งแวดล้อมเขตธนบุรีว่า พบเด็กกำลังลอยคออยู่ในคลองบางกอกใหญ่ใกล้สะพานเนาวจำเนียร แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา ผกก.สน.บางยี่เรือ พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล สว.สส. เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าวขึ้นมาอย่างปลอดภัย ทราบชื่อ ด.ช.เพชร ศรีวาศิฏฐิกุล อายุ 5 ปี อยู่ในอาการหนาวสั่นสภาพเนื้อตัวเปียกมอมแมม


จากการสอบถาม ด.ช.เพชร ( นามสมมติ)  ได้ความว่าว่า ในช่วงเช้ามืด น.ส.เขมจิรา หรือหมวย ศรีวาศิฏฐิกุล อายุ 34 ซึ่งเป็นแม่ ได้พานั่งแท็กซี่ออกจากบ้านย่านบางบอน มายังบริเวณกลางสะพานเนาวจำเนียร ถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก ก่อนจะให้ตนถอดรองเท้าแล้วอุ้มปีนขึ้นไปยืนที่ขอบสะพานแล้วกระโดดลงน้ำพร้อมกัน  และแม่ยังจมอยู่ในน้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังนักประดาเพื่อช่วยออกค้นหา พร้อมทั้งพา ด.ช.เพชร ไปชี้จุดที่ แม่พากระโดดลงน้ำ พบรองเท้าแตะแบบหูหนีบ จำนวน 2 คู่ วางอยู่กลางสะพานด้านถ.เพชรเกษมขาออกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะติดต่อญาติให้ทราบและนำตัว ด.ช.ส่ง รพ.ตากสิน ตรวจดูอาการเบื้องต้นให้นอนพักรอดูอาการที่ รพ.


ต่อมาน.ส.ณัฐธภา ศรีวาศิฏฐิกุล อายุ 47 ปี ประกอบอาชีพเปิดร้านค้าวัสดุก่อสร้าง พี่สาวของ น.ส.เขมจิรา กล่าวว่า น้องสาวตนเรียนจบ จาก ม.ราชภัฏสวนดุสิต จากนั้นได้ทำงานเป็นพริตตี้งานมอเตอร์โชว์ กระทั่งเมื่อ 5 ปี ก่อนน้องสาวตนได้เข้าไปพบหมอไสยศาสตร์ทำเสน่ห์ท่านหนึ่งวัย 60 ปี ปัจจุบันป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ซึ่งอยู่ในซอยอินทามระ 11 ทั้งนี้เพื่อต้องการจะเสริมดวงทำเสน่ห์ให้กับตัวเองเพื่อให้ได้ออกงานบ่อยขึ้น จากนั้นไม่นานน้องสาวตนก็เกิดตั้งครรภ์กับหมอทำเสน่ห์คนดังกล่าว จนมีเรื่องมีราวขึ้น โดยหมอดังกล่าวได้ให้เงินค่าทำขวัญจำนวน 500,000 บาท เพื่อให้จบเรื่อง จากนั้นทางน้องสาวก็อุ้มท้องจนคลอด โดยหลังจากคลอดก็มีอาการทางจิตขึ้น แต่ก็ยังสามารถเลี้ยงดู ด.ช.เพชร จนถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นพวกตนและพี่น้องช่วยกันเลี้ยงดู
 

โดยตามปกติแล้วน้องสาวตนต้องกินยาระงับประสาทอยู่เป็นประจำ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมายาได้หมดลง และเมื่อวานนี้ 21 พ.ย.น้องสาวเพิ่งไปหาแพทย์ที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา และรับยามารับประทาน แต่น้องสาวทานไปได้แค่ครึ่งเม็ด เนื่องยาดังกล่าวมีผลกดประสาทด้านหลัง ทำให้ตัวแข็ง ทางน้องสาวจึงกินแค่ครึ่งเม็ด จากนั้นช่วงประมาณ 02.00 น. วันที่ 22 พ.ย. น้องสาว พักอยู่ชั้น 3 กับ ด.ช.เพชร ได้ลงมาบริเวณที่ชั้น 2 เพื่อมาหาพี่ชายพร้อมกับพูดว่า มีคนมาชวนให้ไปกระโดดตึก และน้องสาวตนยังพูดกับพี่ชายอีกว่าเกรงจะเหตุไม่ดี จึงได้มอบกุญแจที่จะเปิดประตูขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า ของที่พัก จากนั้นทางภรรยาของพี่ชายจึงชวนให้น้องสาวนอนอยู่ด้วยกันที่ชั้น 2 ส่วนพี่ชายนั้นได้ขึ้นไปนอนกับน้องเพชรที่ชั้น 3 จากนั้นทั้งคู่ได้เผลอหลับไป มาทราบอีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่าน้องสาวได้กระทำการดังกล่าวขึ้น
 

ส่วนค้นหาร่างของ น.ส.เขมจิรา เจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาอย่างเต็มที่เป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบร่างของ น.ส.เขมจิรา ทางเจ้าหน้าที่จึงยกเลิกทำการค้นหา
 

ต่อมาเมื่อ 13.30 น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพรัตน์ พ.ต.ท.วิชัย ได้เดินทางมาเยี่ยม ด.ช.เพชร ที่ รพ.ตากสิน ชั้น 13 โดยมี น.ส.พรทิพย์ วิไลทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รพ.ตากสิน เป็นคนพานำเยี่ยม พบนางณัฐธภา คอยดูแล ด.ช.เพชร อย่างไม่ห่าง โดยใช้เวลาเยี่ยมเป็นเวลา 5 นาที
 

โดย น.ส.พรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้เด็กอยู่ในมีการปลอดภัยแล้ว ไม่มีอาการอ่อนเพลีย พูดจารู้เรื่อง และถือว่าเป็นเรื่องโชคดีอย่างที่เจ้าหน้าที่ที่พบเห็นเด็กนั้นได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการจับตัวเด็กเขย่าเพื่อเอาน้ำออกจากร่างกาย ก่อนนำตัวส่งมามือหมอ และจากการตรวจอาการของเด็กแล้วไม่มีอาการแทรกซ้อน และทางแทย์เจ้าของไข้จะอนุญาตให้กลับบ้านได้เร็ววันนี้

ที่มา : นสพ.เดลินิวส์ 22 พฤศจิกายน 2555
เขียนโดย : สายด่วนชาวพุทธ
เขียนเมื่อ : 14 มกราคม พ.ศ. 2556
อ่าน : 2839

ข่าวความเป็นไปแห่งชีวิตอื่นๆ

ธรรมะท้ายข่าว

ธรรมะท้ายข่าวที่ 1
1. ไสยศาสตร์ เสน่ห์ เวทย์มนต์ ก็ยังมีอิทธิพลต่อกลุ่มคนบางกลุ่มบางคนอยู่ บางทีเราอาจมองว่าเป็นความเชื่อความพึงพอใจส่วนบุคคล แต่ทางพุทธสอนไม่ให้เชื่อถือ ไม่ให้เสียเวลากับสิ่งเหล่านี้เลย ท่านสอนให้ทุกคนพึ่งตนเอง มีสติ ฝึกหัดให้มีสติ มีปัญญาให้รู้เท่าทันความเป็นไปของโลกทั้งภายนอกและทั้งโลกภายในคือความโลภของตัวเอง 2. ชาวพุทธที่แท้แล้ว จะไม่ยอมคิดไม่ยอมให้สติตัวเองหนีหายไปจนกระทั่งอยากฆ่าตัวเองหรือลูกหลานตัวเองเลย นี่คือความบอดมืดทางสติทางปัญญา แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยพุทธธรรม เพียงเริ่มต้นสงบจิตสงบใจลง คิดเสียว่าไม่มีอะไรที่เราจะได้ดังใจทุกอย่าง ชีวิตมันก็มีได้บ้าง ผิดหวังบ้าง สมหวังบ้างคละเคล้ากันไป คิดแบบนี้จะทำให้ใจเบาขึ้น ผ่อนคลาย และโลภน้อยลง
ชื่อผู้ตอบ
อาจารย์ผู้ให้คำปรึกษา 99
วันที่เขียน
21 มกราคม พ.ศ. 2556 15:20:13
ทั้งหมด 1 รายการ
1 / 1